วันที่ 1 มิ.ย. 66 ที่สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา สภากลาโหมแถลงระบุว่า มีความต้องการพลทหารลดน้อยลง เป็นสัญญาณที่ดีว่าในปี 2570 อาจจะปรับไปสู่ระบบการเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจได้ ว่า เมื่อครั้งตนเป็นกรรมาธิการงบประมาณในปีที่แล้ว ตัวแทนจากกระทรวงกลาโหมเข้ามาชี้แจง ตนจึงได้มีโอกาสเห็นเอกสารระบุว่า ได้มีแผนปฏิรูปกองทัพ ซึ่งเตรียมจะทำไว้ตั้งแต่หลายปีก่อน ซึ่งสอดคล้อง กับข้อเสนอของพรรค ตั้งแต่ครั้งยังเป็นพรรคอนาคตใหม่

"เป็นกระดาษที่ทำให้เห็นภาพอยู่ ว่าจะลดงบประมาณกองทัพเท่าไร ลดทหารเกณฑ์เท่าไหร่ แล้วมีการพูดถึงการปฏิรูปกองทัพมาหลายครั้ง ทั้งในและนอกห้องงบประมาณ แต่ปัญหาคือเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้น"

นายพิธา กล่าวด้วยว่า หากการที่สภากลาโหมออกมาแถลงเมื่อวานนี้ เป็นความตั้งใจจริง ที่จะเปลี่ยนแผนในกระดาษเป็นแผนปฏิบัติการที่เกิดขึ้นได้จริง ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม และเป็นการปรับตัวของกองทัพ ตามความคิดเห็นของประชาชน ที่เห็นว่าความท้าทายของโลก และของประเทศนี้ แตกต่างออกไปมากแล้ว

"หากทำให้กองทัพจิ๋วแต่แจ๋ว ทันสมัย มีความเป็นสากลมากขึ้น ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ประชาชนชื่นชมไปด้วย ก็ขอให้ครั้งนี้เป็นนิมิตหมายที่แท้จริง หากเกิดขึ้นได้จริงแล้วการทำงานระหว่างพรรคก้าวไกล และกระทรวงกลาโหม รวมถึงสภากลาโหม ก็จะเป็นทิศทางที่ดี และทำให้ประชาชนชื่นใจได้"

เมื่อถามถึงกรณีที่กองทัพแถลงปฎิรูปอัตรากำลังชั้นนายพล 50% จนทำให้ในโซเชียลมีเดียเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการดิ้นสู้ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ทราบข้อมูลตรงกันหรือไม่ แต่เท่าที่ดูจากข่าว แผนของสภากลาโหมที่มีความต้องการพลทหารปีละ 90,000 คน จากเดิมปีละ 100,000 คน มองว่า 60,000 คนต่อปี น่าจะเพียงพอ แต่อย่างน้อยมีเจตจำนงมา เรื่องรายละเอียดสามารถพูดคุยกันได้ แต่อย่างน้อยได้ทำให้กองทัพ มีความทันสมัยมากขึ้น ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี