เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 31 พ.ค. 66 ที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ออกมาให้ความเห็นถึงนายพิธา ว่าหากขาดคุณสมบัติตามกฏหมาย ในกรณีถือหุ้นสื่อ บริษัท ไอทีวี จำกัด ก็อาจจะส่งผลให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมทั้งประเทศ ว่า ยังไม่ได้ดูรายละเอียดถึงตรรกะที่นายวิษณุได้กล่าวถึง แต่ทางฝั่งของพรรคก้าวไกลได้เตรียมการรองรับสถานการณ์ไว้หลายรูปแบบ และพร้อมที่จะชี้แจงในทุกรูปแบบที่จะออกมา แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ ยังมีเวลาในการชี้แจง และคำร้องก็ยังไม่ได้เห็นในรายละเอียด ก็เห็นว่าน่าจะขึ้นอยู่กับคำร้องของผู้ยื่นร้อง 

นายพิธา ยังปฏิเสธข้อเท็จจริง กรณีที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) วิพากษ์วิจารณ์การตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลของพรรคร่วมรัฐบาล โดยมองว่าเป็นการเรียกมวลชนเข้ามาปกป้องพรรคก้าวไกล และเป็นการกดดัน ส.ว. ที่จะร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า เพราะประชาชนไม่สามารถที่จะทนรอความเดือดร้อนในขณะนี้ได้ อย่างเช่น ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ จะไม่มีมาตรการในการพยุงราคาน้ำมันดีเซลอีกต่อไป ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่ จะต้องมาจัดการ เป็นสิ่งที่ประชาชนรอไม่ได้ ไม่ใช่พรรคการเมืองรอไม่ได้

"ส่วนการทำทรานซิชั่นทีม หากดูการเมืองทั่วไปในต่างประเทศ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ลองค้นหาดูได้ว่าการเปลี่ยนผ่านอำนาจของรัฐบาลต่อรัฐบาล ในหลายประเทศ ในระบบประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องปกติมาก" นายพิธา กล่าว 

นายพิธา ยังกล่าวถึง กรณีข้อสังเกตว่าการตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลว่าเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) เงา หรือไม่ว่า หากคำถามนี้เป็นความจริงการตั้งคณะทำงาน และคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน ที่ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา จะต้องมีการตั้งตามกระทรวง แต่เป็นการตั้งตาม MOU ปัญหาของประชาชนเป็นตัวตั้ง โดยแสดงถึงความตั้งใจว่าไม่ได้มีการตั้งคณะทำงานตามกระทรวงที่มีอยู่  แต่เป็นการตั้งตามปัญหาของประชาชน  ซึ่งในการแก้ไขปัญหาต่างๆ จะต้องบูรณาการหลายกระทรวง อย่างเช่นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาภัยแล้ง ก็ต้องร่วมงานกัน 4-5 กระทรวง  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 1 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ นายพิธาจะเดินสายพบกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)  จากนั้นในสัปดาห์หน้า จะพูดคุยกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือแนวทางในการทำงานร่วมกันต่อไป