"ชลน่าน" โวเสียงตอบรับ 8 พรรคร่วมดี ยันตั้งรัฐบาลเลือกนายกฯให้ได้ ย้ำไร้ขัดแย้งปมเลือก "ประธานสภา" สวน "วิษณุ" ปม "พิธา" เลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ  ลั่นจับมือร่วมกันเหมือนเดิมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

วันที่ 31 พ.ค.2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า การตั้งคณะทำงาน 7 คณะของพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรคเรามุ่งมั่นทำงานร่วมกัน เสียงตอบรับเป็นไปในทางที่ดี  สิ่งที่ชัดเจนที่สุด คือเราจะใช้วาระงานเป็นตัวกำหนดการทำงานหลังจากที่เราทำเอ็มโอยูร่วมกันแล้ว โดยคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ที่มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นประธาน จะเริ่มประชุมนัดแรกในวันที่ 6 มิ.ย.ที่พรรคเพื่อไทย ส่วนคณะทำงานภารกิจ 7 คณะ เราคาดหวังจัดทำเป็นตัวนโยบายของรัฐบาลที่คณะทำงานฯ จะรวบรวมเพื่อเสนอคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมต่อไป และส่งเข้าที่ประชุมหัวหน้าพรรคทั้ง 8 พรรค เพื่อเป็นกำหนดเป็นแนวทางในการจัดทำนโยบายร่วมกัน

"เมื่อได้ตัวร่างนโยบายและภารกิจหลักที่เป็นชุดข้อเสนอเชิงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลใหม่ ถ้ามีข้อเสนอเชิงสังคมที่เป็นปัญหาเร่งด่วน เรามุ่งหวังว่าวิสัยทัศน์ที่เราเสนอเปรียบเทียบ จะเป็นเครื่องมือที่เราส่งต่อให้รัฐบาลรักษาการเข้าไปดูแลในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งนี้ การส่งต่อภารกิจจากรัฐบาลรักษาการก็จะเป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งเราตระหนักตลอดว่าเรายังไม่มีหน้าที่และอำาจในการเป็นรัฐบาล เพราะอยู่ในขั้นตอนเตรียมจัดตั้งรัฐบาล และถ้าเราจะมีอำนาจจริงเราต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ตั้งสภาฯ ให้ได้ เลือกนายกฯ ให้ได้ และตั้งคณะรัฐมนตรีให้ได้ และสุดท้ายคือการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาจึงจะทำหน้าที่ได้" นพ.ชลน่าน กล่าว และว่า ในการประชุมวันที่ 6 มิ.ย.ที่พรรค พท.จะเป็นการประชุมของคณะกรรมการประสานงานฯ ส่วนวันที่ 7 มิ.ย.จะเป็นการประชุมในส่วนของหัวหน้าพรรคทั้ง 8 พรรคที่พรรคเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่า จะได้ข้อสรุปเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ เมื่อไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ทางคณะเจรจาเริ่มงานกันตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.โดยได้เริ่มพูดคุยกันไปส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับในส่วนของฝ่ายบริหาร เราเห็นว่าตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่สังคมคาดหวังว่าจะต้องไม่เกิดข้อขัดแย้ง โดยตำแหน่งดังกล่าวจะไม่ใช่โควตาพรรคใดพรรคหนึ่ง ให้คณะเจรจาพูดคุยเสมือนเป็นพรรคเดียวกัน

เมื่อถามว่า ภายในพรรคมีการพูดคุยกันแล้วหรือไม่หลังจากมีชื่อ นพ.ชลน่าน , นายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรคเพื่อไทยจะมาดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องตำแหน่งและตัวบุคคล ซึ่งน่าจะเป็นเพียงการเสนอความคิดเห็น รวมถึงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้พูดคุยกัน เราจะใช้วาระงานเป็นตัวกำหนด หลังจากที่คณะทำงานและคณะกรรมการประสานงานฯ พูดคุยกันได้ส่วนหนึ่ง ทางที่ประชุมของหัวหน้าพรรคที่กำหนดพูดคุยทุกสองสัปดาห์ จะมาหารือร่วมกันอีกครั้ง หลังจากนั้นจะได้พูดคุยเรื่องการแบ่งงานรวมถึงตำแหน่งต่างๆ

เมื่อถามว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ระบุว่าตำแหน่งนี้จะเป็นใครก็ได้ ขอเพียงวางตัวเป็นกลาง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นหน้าที่และอำนาจของประธานสภาฯ อยู่แล้ว รัฐธรรมนูญบังคับว่าถ้าคุณเป็นประธานสภาฯ ต้องไม่มีตำแหน่งทางการเมืองในพรรคการเมือง ต้องเป็นกลาง

เมื่อถามว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าหาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ในประเด็นขาดคุณสมบัติ ในประเด็นถือหุ้นไอทีวี และถูกร้องเรื่องการรับรองผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกล อาจจะต้องเลือกตั้งซ่อมทั้งประเทศในเขตที่พรรคก้าวไกลชนะ นพ. ชลน่าน กล่าวว่า ประเด็นนี้มีการพูดคุยกันอยู่ เพราะคุณสมบัติของหัวหน้าพรรค ที่ไปลงนามรับรองผู้สมัครของพรรค มีคุณสมบัติครบหรือไม่อย่างไร ต้องไปดูประเด็นนั้น ยกตัวอย่างกรณีของตนเอง ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย จ.นนทบุรี ถูกชี้ว่าคุณสมบัติไม่ครบ เพราะถูกจำกัดสิทธิ์ จากการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หลายฝ่ายมองว่า หัวหน้าพรรคต้องรับผิดชอบร่วมด้วย ซึ่งข้อเท็จจริงแล้ว การถูกจำกัดสิทธิ์ ไม่ใช่ลักษณะต้องห้าม ฉะนั้น ไม่จำเป็นว่าหัวหน้าพรรคที่เซ็นไปลงสมัครรับเลือกตั้งต้องรับผิดชอบ และพรรคจะรับผิดชอบเฉพาะกรณีที่ไปลงนาม ตัวผู้สมัครที่รู้อยู่ว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติ และมีคุณสมบัติต้องห้าม และเมื่อเขามีคุณสมบัติต้องห้าม และยังลงนามให้เขาไปลงรับสมัคร ต้องรับผิดชอบทางอาญา

เมื่อถามว่า หากเกิดอะไรขึ้นกับนายพิธา ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเอง ยังคงให้โอกาสพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยืนยันว่าเรามัดกันแน่น และยังคงทำงานร่วมกันเหมือนเดิม ไม่ว่าจะมีอะไรขึ้น ก็ยังคงทำงานกันต่อไป ส่วนรายละเอียด ก็ดูเป็นเรื่องๆ ไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร มีข้อกฎหมายรองรับอะไรหรือไม่อย่างไร