หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 31พฤษภาคม พ.ศ.2566 หยุดความวุ่นวายทางการเมือง ทุกเรื่องต้องจบในสภาฯ...*...
มองดูการเมืองข้างหน้า เห็นท่า จะจบยากส์ เพราะพรรคเสียงข้างมาก ก้าวไกล ก็ได้แค่ 151 เสียง จาก คะแนนเต็ม 500 มันน้อยเกินกว่า ที่จะมีอำนาจต่อรองได้ดั่งใจ แถม พันธมิตรทางการเมืองในสภาฯก็หาไม่มี เพราะ ไปใช้วจีหาเสียงสร้างศัตรู แค่ มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา ยังไม่พอ ยังเพิ่มศัตรูต่อ ตอนหาเสียงไว้ว่า จะไม่เอาแม้พรรคการเมืองที่เคยร่วมเผด็จการ ดูๆแล้ว โอกาสเป็นแกนนำรัฐบาล ที่นี่ บารอน ว่า ก้าวอีกไกล สมชื่อพรรค ...*...
ตรงข้ามกับ พรรคเพื่อไทย ได้ที่นั่งในสภาฯอันดับสอง เป็นพระรองเหนือพระเอก ตัวเลขที่นั่งในสภาฯ 141 เสียง น้อยกว่าเพียง 10 เสียง เท่านั้น แต่พันธมิตรการเมืองในสภาฯมากกว่าเยอะ ทำให้ เพิ่มอำนาจต่อรองเหนือกว่าก้าวไกล ที่ไม่มีทางไป ก้าวไกลขาดเพื่อไทยไม่ได้ แต่ เพื่อไทยขาดก้าวไกลได้ ประเด็นสำคัญทั้ง ก้าวไกล กับ เพื่อไทย เปรียบไป เหมือนปลาคนละน้ำ อีกฝ่าย ก็อุดมการณ์สุดโต่ง อีกฝ่าย ก็เป็นพรรคการเมืองทุนนิยม อย่าหลอกสังคมเลยครับ สองพรรคปรับเข้าหากันไม่ได้ดอกครับ ...*...
มาถึงวันนี้ บารอน ว่า ทุกพรรคการเมือง ล้วนแล้วแต่ เป็นฝ่ายประชาธิปไตยกันทุกพรรค สมควร เลิกใช้วาทกรรมแบ่งขั้วเสียที เพราะ ต่างก็ขึ้นเวทีเลือกตั้ง และ ใช้กติกาเดียวกัน ใน รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน ที่จะต่างกันได้คือ อุดมการณ์พรรค ได้แก่ พรรคอนุรักษ์นิยม และ พรรคเสรีนิยม กับ พรรคสังคมนิยม เท่านั้น กรรมการตัดสิน คือ ประชาชนจะนิยมอุดมการณ์ไหน เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไร คนในสังคมต้องยอมรับ โดย ให้มันจบในสภาฯ หมดเวลาความขัดแย้งกันเสียที ...*...
สงบอยู่ในที่ตั้ง “พี่ตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่วันนี้ถอดเครื่องแบบ เดินสู่ถนนประชาธิปไตยเต็มตัว ในฐานะ ประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ เลือกตั้งที่ผ่าน ได้มาแค่ 36 เสียง พอเพียงที่จะ เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี แต่ วางตัวนิ่งดีครับ ยอมรับสภาพผู้แพ้ ไม่แม้แต่เคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ปล่อยให้ ก้าวไกล กับ เพื่อไทย ไปร่วมกัน จัดตั้งรัฐบาล ทุกอย่างว่าไปตามกติกา บารอน ชื่นชม ถูกต้องแล้วครับ ...*...
“บารอน” เขียนข่าวล่วงหน้า เลยไม่รู้ว่าคณะทำงานของสองพรรค ก้าวไกล กับ เพื่อไทย ที่จะใช้ ที่ทำการพรรคประชาชาติ ของ นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา เพื่อหารือเรื่องสำคัญ ใครกันจะได้เก้าอี้ประธานสภาฯ รวมถึง โควตารัฐมนตรี เมื่อบ่ายวันวานที่ผ่านมา แต่พอคาดคะเนเอาว่า ไม่น่าจะจบตกลงกันได้ในการเจราจาครั้งเดียว ...*...
ทุกครั้ง หลังเลือกตั้ง ที่ผ่านๆมา จะรู้กันทันทีพรรคไหนเป็นรัฐบาล และ พรรคไหนเป็นฝ่ายค้าน จึงแข่งขันกันในสภาฯระหว่าง ฝ่ายรัฐบาล กับ ฝ่ายค้าน จึงไม่มีปัญหา ครั้งนี้บังเอิญว่า ฝ่ายค้านมีเพียง 188 เสียง น้อยกว่ากันมาก คงไม่ส่งใครลงแข่งขัน ปล่อยให้สองพรรคใหญ่ ก้าวไกล กับ เพื่อไทย ไปว่ากันเอง ตกลงกันได้ก็ดีไป แต่ ถ้าตกลงกันไม่ได้ ที่นี่ บารอน เห็นด้วยกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ปาร์ตี้ลิสต์ประชาธิปัตย์ ให้สภาฯตัดสิน ทุกปัญหาต้องจบในสภาฯ เกมนอกสภาฯเบื่อเต็มทน ...*...
เห็นการทำงาน ของ กกต.ชุดนี้ ที่นี่ บารอน ล่ะอ่อนใจ เรื่องการถือหุ้นไอทีวี ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ประกาศตัวเร็วเกินไปว่าเป็น ว่าที่นายกรัฐมนตรี ทั้งๆที่ วันนี้ยังไม่เป็นแม้แต่ ส.ส.อย่างเป็นทางการเลย อยากเห็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ช่วยเก็บอาการหน่อย คดีถือหุ้นสื่อ ไอทีวี ว่าไปแล้ว กกต.ควรรีบดำเนินการพิจารณา ทำไม ต้องรอให้นายพิธามีสถานะเป็น ส.ส.เสียก่อน ถึงจะ ส่งฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ...*...
ดูตามรูปการณ์แล้ว บารอน ว่า กกต.กลัวจะเสียหน้ามากกว่า เพราะ ไปรับรองการสมัครเลือกตั้งให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทั้ง การเลือกตั้งที่ผ่านมา และ การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ซึ่งตอนนั้น ก็ถือหุ้นสื่อ ไอทีวีอยู่แล้ว กกต.ปล่อยให้ผ่านมาได้อย่างไร สู้รอให้รับรองเป็น ส.ส.เสียก่อน แล้วโยนเผือกร้อน ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เฮ้อ กกต.ชุดนี้เมื่อไหร่จะหมดอายุขัยเสียที อยากให้มีความรับผิดชอบบ้าง ...*...
กรณีนี้ เทียบเคียงได้ กับ กกต.ดำเนินคดีนายสิระ เจนจาคะ ในมูลความผิด ย้อนหลังความผิดในปี 2535 ทำให้ ขาดองค์ประกอบคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. ส่งต่อให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จนกระทั่ง นายสิระ เจนจาคะ ขาดคุณสมบัติ ไม่มีสิทธิสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เป็นเหตุให้ กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งซ่อม เช่นเดียวกันครับ กกต. ก็ย่อมสามารถ ดำเนินคดีกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ย้อนหลังได้เช่นกัน ลงเลือกตั้ง ส.ส.ในปี 2562 ขาดคุณสมบัติ ให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ทันที ไม่ต้องรอให้มีการรับรองเป็น ส.ส.เสียก่อน ถึงค่อยยื่นฟ้องศาลรัฐธรรม เพื่อที่ จะได้รู้หมู่จ่ากันไปเลย ถ้า ไม่ผิดก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีติดต่อจนครบเทอม
ที่มา:บารอน (31/5/66)