นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนเม.ย.66 มีมูลค่า 21,723.2 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 7.6% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 นับจากเดือนต.ค.65 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ติดลบ 6.8% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 23,195.0 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 7.3% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1,471.7 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวม 4 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกมีมูลค่า 92,003.3 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 5.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 96,519.3 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 2.2% ขาดดุลการค้า 4,516.0 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าการส่งออกทั้งปีขยายตัว 1-2% ปัจจัยหลักมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกกดดันอุปสงค์ด้านการส่งออก หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียยังคงเผชิญกับการส่งออกที่ชะลอตัว แม้ว่าปัจจัยด้านเงินเฟ้อจะชะลอลง แต่ความเปราะบางของภาคธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป กดดันให้เศรษฐกิจโลก มีแนวโน้มชะลอตัวมากขึ้น
โดยแนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไป กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอลงแต่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้หลายประเทศยังคงใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวด ขณะที่มีความเสี่ยงจากปัจจัยอื่นๆเพิ่มเติม เช่น ปัญหาวิกฤติการเงินของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯ และยุโรป และปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ สร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้การฟื้นตัวของตลาดจีนที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เป็นสัญญาณบวกต่อการส่งออกไทย ขณะที่ปัญหาความมั่นคงทางอาหารเกิดขึ้นในหลายประเทศที่ประสบปัญหาภัยแล้งจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยในปีนี้