ชาวบ้านโรงเลื่อย หมู่ 9 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รวมตัวบุกอำเภอสตึก ยื่นหนังสือนายอำเภอ ปลดผู้ใหญ่บ้าน อ้างว่า ไม่ใส่ใจต่อกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในชุมชน อำนาจการบริหารจัดการจะอยู่ในสายเครือญาติและคนใกล้ชิด ไม่มีการประชุมประจำเดือนของชุมชน ขณะอำเภอรับเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
วันที่ 30 พ.ค.66 เวลา 09.30 น.วันนี้ตัวแทนชาวบ้านโรงเลื่อย หมู่ 9 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 100 คน ได้รวมตัวกันเดินทางมาถือป้ายประท้วงด้วยข้อความต่างๆ ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อยื่นหนังสือ พร้อมลายมือชื่อผู้เห็นด้วยกับคำร้องเรียน จำนวน 329 คน ต่อนายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อร้องเรียนเสนอให้ผู้ใหญ่บ้านโรงเลื่อย หมู่ 9 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พ้นจากตำแหน่ง
โดยอ้างว่า ไม่ใส่ใจต่อกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชน การบริหารจัดการจะรวมศูนย์การตัดสินใจไว้กับคนไม่กี่คนในสายเครือญาติและคนใกล้ชิด ไม่มีการประชุมประจำเดือนของชุมชน เพื่อสื่อสารผลที่ได้รับมาจากการประชุมประจำเดือนของส่วนราชการ มาสร้างความเข้าใจให้กับชุมชน และเพื่อรายงานความคืบหน้าของแต่ละกิจการในชุมชน ไม่เกิดขึ้นเลย โดยแอบอ้างสถานการณ์โควิด-1 9 แม้แต่การประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะตัวแทนของชุมซน ก็ได้รับความเพิกเฉย
ทั้งนี้ได้สร้างความอึดอัด ไม่ไว้วางใจให้กับคนในชุมชนบ้านโรงเลื่อยเป็นจำนวนมาก เพื่อการพัฒนาชุมชนโรงเลื่อยอย่างต่อเนื่องเต็มศักยภาพของชุมชน ชาวบ้านจึงมีการลงชื่อ พร้อมกับทำหนังสือร้องเรียนมาถึงนายอำเภอสตึก เสนอให้ ผู้ใหญ่บ้านโรงเลื่อย หมู่ที่ 9 ตำบลนิคม พ้นจากตำแหน่ง ตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ มาตรา 14(6) การเข้าซื่อถอดถอนผู้ใหญ่บ้าน และระเบียบกระทรวงมหาดไทย ขั้นตอนการถอดถอนผู้ใหญ่บ้าน
ด้าน นายยงยุทธ ศรีวรรณา ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบ้านมาวันนี้ ต้องการให้ผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่งอย่างเดียว เป็นผู้ใหญ่บ้านไม่เอื้ออำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้าน การบริหารงานก็จะอยู่ในกลุ่มเครือญาติ ไม่แยกแยะมอบหมาย ไม่มีการกระจายอำนาจออกไป เพื่อให้หมู่บ้านของเราจะได้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไป ซึ่งหากการร้องเรียนครั้งนี้ ไม่เป็นไปตามความต้องการของชาวบ้าน ก็จะพากันไปยื่นหนังสือร้องเรียนให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ต่อไป ชาวบ้านก็ยืนยันว่าจะเคลื่อนไหวเพื่อให้ผู้ใหญ่บ้านพ้นจากตำแหน่งจนถึงที่สุด
ต่อมา นายเดี่ยว ยอรัมย์ ปลัดอำเภอ รักษาราชการแทนนายอำเภอสตึก เป็นตัวแทนนายอำเภอสตึก ได้ลงมารับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้าน เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่ชาวบ้านร้องเรียน ว่ามีข้อมูลเท็จจริงเป็นอย่างไร เนื่องจากการตรวจสอบก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมาย จากนั้นก็จะแจ้งให้พี่น้องประชาชนได้ทราบในลำดับต่อไป ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ภายหลังชาวบ้านยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง และรับฟังคำชี้แจงจากทางอำเภอ ชาวบ้านต่างพอใจ จึงสลายตัวกลับไป โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สตึก มาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัย