เปิดตำนาน "เกาะลังกาวี"...? สถานที่ "ดีลลับ" เคยเป็นดินแดนของไทย

"ดีลลับลังกาวี" กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่า! ภายหลังจากที่ "นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ออกมาแฉ ว่า มีการประชุมลับที่ "เกาะลังกาวี" ซึ่งอยู่ห่างจากประเทศไทย เพียงแค่ 4 กิโลเมตรเท่านั้น 

 

โดยวาระที่เอามาถกกัน คือ "แผนการ" ในการจัดตั้ง "รัฐบาลขั้วใหม่" และโดดเดี่ยว "พรรคก้าวไกล" ไปเป็นฝ่ายค้าน พร้อมเปิดทางให้ "พรรคเพื่อไทย" ขยับขึ้นมาฟอร์มทีมรัฐนาวาร่วมกับพรรคเสียงข้างน้อยแทน 

 

ที่ผ่านมาหากมีการประชุมของเหล่า "นักวิ่ง" เพื่อแสวงหาแนวร่วมทางการเมืองกับคนแดนไกล ก็มักจะเดินทางไปกินข้าวกันที่ "ฮ่องกง" ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ใกล้กับประเทศ "ไทย" นิดเเดียว  

 

แต่คราวนี้ทำไมต้องไปที่ "เกาะลังกาวี" ที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตของประเทศมาเลเซีย 

 

"มาเลเซีย" เป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยหมู่เกาะที่เงียบสงบ 140 เกาะ โดยมีเพียงไม่กี่เกาะเท่านั้นที่มีผู้คนอาศัยอยู่ เกาะที่ใหญ่ที่สุดคือ "เกาะลังกาวี" หรือ Langkawi ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นอุทยานธรณีของโลกจากยูเนสโก เนื่องจากเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ทะเล 

 

"ลังกาวี" เป็นเกาะท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ห่างจากเกาะตะรุเตา จ.สตูล เพียงแค่ 4 กิโลเมตรเท่านั้น นับเป็นเกาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ลังกาวียังได้รับยกย่องให้เป็น "อัญมณีแห่งไทรบุรี" ชื่อนี้ได้มาเพราะว่าในอดีตเกาะลังกาวีเคยเป็นส่วนหนึ่งของเมืองไทรบุรี หนึ่งในดินแดนของสยาม จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงได้เสียให้กับอังกฤษ

 

ในอดีต "เกาะลังกาวี" มีตำนานเรื่องราวของ "พระนางมัสสุหรี" สาวไทยชาว จ.ภูเก็ต ที่แต่งงานกับ "พระอนุชาขององค์สุลต่านแห่งลังกาวี" แต่โดนใส่ร้ายจนต้องโทษประหารชีวิต ก่อนสิ้นพระชนม์พระนางได้กล่าวออกมาว่า "หากไม่มีความผิดขอให้โลหิตเป็นสีขาว” อีกทั้งยังสาปให้ลังกาวีไร้ความสงบสุขและความเจริญไป 7 ชั่วคน"

 

จากนั้นทำให้ลังกาวีอยู่อย่างเงียบงันมากกว่า 100 ปี จนเมื่อปี พ.ศ.2543 รัฐบาลมาเลเซียได้เชิญทายาทรุ่นที่ 7 ซึ่งเป็นสาวไทยไปทำการถอนคำสาปของเกาะ รวมทั้งรัฐบาลมาเลเซียได้สนับสนุนการท่องเที่ยวมากขึ้น จนทำให้ลังกาวีกลายมาเป็นอัญมณีแห่งไทรบุรี เป็นเกาะท่องเที่ยวยอดฮิตอีกเกาะหนึ่งที่ไม่ไกลจากประเทศไทยนั่นเอง