ข้าวโพด : ราคาลดลง
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ ราคาลดลงเล็กน้อย จากหาบละ 777 บาท เป็นหาบละ 771 บาท 

ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนกรกฎาคม 2566 ราคาอยู่ที่ 587.25 เซนต์/บุชเชล ราคาปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าความคืบหน้าการเพาะปลูกข้าวโพดในประเทศยูเครนอยู่ที่ 90% แต่คาดการณ์ผลผลิตในฤดูกาลนี้ 2566/67 ลดลงเหลือเพียง 21.4 ล้านตัน จากปีก่อนหน้าที่ 26.5 ล้านตัน เนื่องจากสงครามทำให้พื้นที่การเพาะปลูกข้าวโพดเสียหายรวมถึงถูกยึดครองไป นอกจากนี้สถานการณ์การส่งออกธัญพืชในประเทศยูเครนยังคงชะลอตัว หลังจากมีการต่อสัญญาในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ตลาดกังวลว่าการส่งออกของประเทศยูเครนจะมีปัญหาอีกครั้ง ด้านสหรัฐฯ ในช่วงนี้ปริมาณน้ำฝนเริ่มลดลงจน ทำให้ความชุ่มชื้นในดินเริ่มลดลงด้วย ในขณะที่ความคืบหน้าการเพาะปลูกอยู่ที่ 81% เร็วกกว่าค่าเฉลี่ยปกติซึ่งอยู่ที่ 75%
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะทรงตัว

ถั่วเหลือง : ราคาลดลง
กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้า ณ โรงงานผู้ผลิต ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 23.00 บาท เป็นกิโลกรัมละ 22.60 บาท การเพาะปลูกในฝั่งสหรัฐอเมริกายังอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง การเจริญเติบโตเร็วกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ขณะที่คาดการณ์ผลผลิตจากบราซิลปรับเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย รวมทั้งปริมาณส่งออกที่สูงอย่างต่อเนื่อง ยังคงกดดันให้ราคาตลาดปรับลดลงมา 

ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนกรกฎาคม 2566 ราคาอยู่ที่ 1,324.50 เซนต์/บุชเชล และกากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนกรกฎาคม 2566 ราคาอยู่ที่ 402.20 เหรียญสหรัฐฯ/ช็อตตัน ราคาปรับลดลงต่อเนื่อง หลังการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองในประเทศบราซิลเสร็จเรียบร้อย และผลผลิตออกมาอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 155 ล้านตัน ส่วนการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองในประเทศอาร์เจนตินายังคงล่าช้าต่อเนื่อง จากผลกระทบของความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาการเจริญเติบโต ล่าสุดเก็บเกี่ยวไปแล้ว 74% เทียบกับค่าเฉลี่ยซึ่งอยู่ที่ 87% ส่งผลให้คาดการณ์ผลผลิตถั่วเหลืองประเทศอาร์เจนตินาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเหลือเพียง 21-27 ล้านตัน ในขณะที่การเพาะปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐฯ ยังคงดำเนินการไปได้ด้วยดีเนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประเมินอยู่ที่ 66% เทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 52% 
แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองนำเข้าน่าจะทรงตัว

ปลาป่น : ราคาทรงตัว
ประเทศเปรูยังคงเลื่อนการจับปลาออกไป และไม่มีกำหนดที่แน่นอนว่าจะสามารถเริ่มได้ภายในช่วงต้นเดือนมิถุนายนหรือไม่ รวมทั้งมีความกังวลว่าโควตาการจับปลาจะน้อยมากกว่าปกติ ทำให้ราคารับซื้อปลาป่นในประเทศจีนยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปริมาณซื้อหน้าท่าเรือปรับสูงขึ้นเช่นกัน ส่วนสต๊อกหน้าท่าเรือทรงตัว

สถานการณ์ปลาป่นในประเทศ ปลาป่นเกรดกุ้ง ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 54.00 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 48.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 45.70 บาท

สำหรับปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคที่กิโลกรัมละ 45.20 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 โปรตีน ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 43.70 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว 

ข้าว : ราคาลดลง
ตลาดซื้อขายข้าวต่างประเทศสัปดาห์นี้ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 530 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 525 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 442 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 437 เหรียญสหรัฐฯ

ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคาทรงตัวที่กระสอบละ 1,650 บาท ขณะที่ปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ยืนราคาที่กระสอบละ 1,350 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวน่าจะทรงตัว

สุกร : ราคาทรงตัว
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รายงานข้อมูลสภาวะตลาดสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ราคาสุกรขุนอยู่ที่ 70-79 บาทต่อกิโลกรัม ด้านลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 1,700 บาท (บวก/ลบ 70)  
แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะทรงตัว

ไก่เนื้อ : ราคายืนแข็ง
สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ยืนราคาแนะนำไก่เนื้อมีชีวิต ณ หน้าฟาร์ม ที่กิโลกรัมละ 40 บาท ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 15.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 28.00 บาท 
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะทรงตัว

ไข่ไก่ : ราคาทรงตัว
เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกาศราคาแนะนำ ไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ที่ฟองละ 3.80 บาท 
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะทรงตัว