"สามารถ" เตือนระวังซ้ำรอยอดีต "ประธานสภา" ต้องเป็นคนของตัวเอง

วันที่ 26 พ.ค.66 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ระบุว่า...

ระวังซ้ำรอยอดีต !

“สามารถ” เตือน ปธ.สภาฯ ต้องเป็นคนของตัวเอง

แต่ถ้าคุยกันไม่ลง จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ทำให้เข้ากลอุบาย สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน พิธาแห้วนายกก็เป็นได้

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึง ประเด็นร้อนที่มีการช่วงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ขณะนี้ ทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยต่างก็มีจุดยืนคนละจุด เพราะทั้ง 2 พรรค ก็ต้องการตำแหน่งนี้ไว้ เพื่อความมั่นใจในการบริหารเสียงในสภาผู้แทนราษฎร และบริหารกฎหมาย โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ในการพิจารณากฎหมาย อย่าง มาตรา112 ที่สามารถดำเนินการได้ง่าย แต่พรรคใดจะได้ความชอบธรรม เพราะหากตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่เป็นคนของพรรคตัวเองแล้ว การเสนอนายกรัฐมนตรีอาจ มีปัญหาไดั หากยังทะเลาะกันอยู่ สุดท้ายก็จะตกมาอยู่ในก๊กที่สามเหมือนที่เคยคาดการณ์หรือไม่ หรือ อาจซ้ำรอยในอดีตอีกก็เป็นได้ เนื่องจากมีสมัยหนึ่งสภาฯ เสนอนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง แต่ท้ายสุดประธานสภาฯ กลับเปลี่ยนชื่อตอนทูลเกล้าก็มี ฉนั้น ตำแหน่งประธานสภาฯ จึงถือว่าสำคัญ ถ้ามีการแต่งตั้งแล้วไม่สามารถปลด ได้ ยกเว้นต้องลาออกเอง

“ ปี39 สภาฯได้เลือกนายวันมูฮะหมัด นอร์มะทา เป็นประธานสภาฯ แต่ปี40 พล.เอก ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ลาออกแสดงความรับผิดชอบกับวิกฤตต้มยำกุ้ง สภาฯจึงได้ตั้งคุณชวน หลีกภัย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ประธานสภาฯ ก็ยังเป็นนายวันมูฮะหมัด เหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง จนกระทั่งวันที่ 27 มิย.2543 ก่อนการยุบสภา นาวันมูฮะหมัด ลาออกตามพรรคความหวังใหม่ ถัดมาท่าน ชวน เตรียมยุบสภา แต่ยื้อโดยการตั้ง คุณพิชัย รัตตกุล มาเป็นประธานสภาฯ แทน จนกระทั่งวันที่ 9 กพ.2544 ถึงจะยุบสภา เราจะเห็นว่า ถ้าประธานสภา ไม่ใช่คนของพรรคตัวเอง มันจะมีปัญหาอย่างไร ฉนั้นวันนี้เพรรคเพื่อไทย กับก้าวไกล ต้องตกลงให้ดี”

นายสามารถ กล่าวด้วยว่า ในสมัยปี 2562 คุณชวน หลีกภัย ได้เป็นประธานสภา ทั้งๆที่ พรรค ประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคอันดับ หนึ่ง แต่พรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ยอมให้ พรรคประชาธิปัตย์ได้ตำแหน่งประธานสภาฯไป วันนี้พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เพราะทั้งพรรคเพื่อไทยก็มีบุคลากรที่ดี อย่าง หมอชลน่าน ศรีแก้ว พรรคก้าวไกลก็มี นายณัฐวุฒิ บัวประทุม หรือหวยจะออกที่ คุณ ชวน หลีกภัย อีกหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ที่ต้องคิดให้ครบถ้วน ไม่อย่างนั้นอาจเข้า กลอุบายที่ว่า สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน ก็เป็นได้

ผมจึงอยากฝากข้อคิดไปถึงพรรคก้าวไกลว่า

"อ่อนแอเกินไป.. ก็เป็นใหญ่ไม่ได้

หรือแข็งกร้าวเกินไป.. ก็เป็นใหญ่ไม่ได้

เพราะฉะนั้นผู้เป็นใหญ่

พึงรู้จักวางตนให้พอเหมาะ"

ดังนั้นพรรคก้าวไกลในฐานะแกนนำ คงต้องคิดเรื่องนี้ให้ดี ไม่อย่างนั้น จะเป็นปัญหาแบบน้ำผึ้งหยดเดียว ทำให้นาย พิธา ไม่ได้เป็นนายกฯก็เป็นได้