ปากกาขนนก / สกุล บุณยทัต
“ในระหว่างการเดินทางของชีวิต เราไม่สามารถที่จะรู้ได้หรอกว่า...ชีวิตจะต้องไปบรรจบกับสิ่งไหน ท่ามกลางกระแสโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนแปรอย่างรุนแรง มันอาจเป็นเพราะว่า...เราปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่แล้ว/เราได้ฝึกฝนกลไกแห่งประสบการณ์ชีวิตในบางสิ่งบางอย่าง/หรือ..เราอาจตัดสินใจเลิกนิสัยไม่ดีไม่งามบางอย่าง ทั้ง 3 ปัจจัยนี้ ถือเป็นแง่คิดที่สำคัญยิ่งสำหรับการเรียนรู้ในโลกยุคใหม่..
ที่ไม่อาจมองข้ามได้แม้เมื่อใด มันเปรียบดั่งประเด็นศึกษาเนื้อในแห่งเนื้อในของชีวิตร่วมยุคสมัย ที่สมควรจะต้องทบทวนและจดจำ เพื่อการหยั่งรู้ อันลึกซึ้งและบริสุทธิ์เสมอ.."
นี่คือ...จิตปัญญาที่ได้รับอย่างชวนพินิจพิเคราะห์จากหนังสือ"How To" ที่ขายดีที่สุดในโลกเล่มหนึ่ง..
"เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น"(Atomic Habits )..ผลงานเขียนที่ควรศึกษาและทรงคุณค่าของนักเขียนขายดีของ"New York times"..."เจมส์ เคลียร์"(James Clear)..นักเขียนและนักพูด ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างนิสัย..ระดับโลกที่สามารถเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยและวิธีคิดของผู้คน
"ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ และมีความหมายกับเรา เราจะทำจนสำเร็จ ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหนก็ตาม"
แน่นอนว่า..หนังสือเล่มนี้...ไม่ได้ยัดเยียดให้ใครต้อง..จำเป็นที่จะต้องเด็ดขาดหรือหักดิบ ด้วยการเปลี่ยนแปลง กระทั่งปฏิวัติตนเอง เพียงแต่สิ่งที่คุณต้องปฏิบัติและต้องกระทำอย่างอย่างจริงจังนั้น..ก็คือการแก้นิสัยเล็กๆน้อยๆ แล้วตั้งใจที่จะอดทนเพื่อรอคอยผลลัพธ์ของมัน รวมทั้งจักต้องเปลี่ยนนิสัยเล็กๆน้อยๆนั้น..เพื่อเราจะได้พบกับคุณค่าที่น่าทึ่ง..
ตลอดความยาวกว่า 300 หน้าของ.."Atomic Habits"..."เจมส์ เคลียร์" ได้ให้ข้อสรุปในการสร้างนิสัยออกเป็น 4 กฎด้วยกันอันประกอบด้วย..
1.ต้องเห็นอย่างชัดเจน/2.ต้องดึงดูดความคิดและความรู้สึก/3.ต้องให้มันง่ายเข้าไว้/และ..4.ต้องน่าพึงพอใจ/
ที่ต้องเห็นอย่างชัดเจน..
ก็เพราะว่า..การสร้างนิสัยใหม่ขึ้นมา ต้องเริ่มต้นด้วยการส่งเสริมสภาวะเเวดล้อม..เพื่อเอื้อให้เราได้มองเห็นมันอย่างชัดเจน..กระทั่งบังเกิดแรงกระตุ้นเร้าที่อยากจะทำมันมากยิ่งขึ้น..
ต้องน่าดึงดูดความคิดและความรู้สึก เพื่อ ให้เราได้เลือกที่จะสร้างสรรค์นิสัยที่ดีขึ้นมา...เราจำเป็นที่จะต้องพาตัวเอง ให้ไปอยู่ในท่มกลางบรรยากาศที่น่าดึงดูด..อยู่ท่ามกลางบรรยากาศดีๆ แล้วโอกาสแห่งการรังสรรค์นานา ก็จะเกิดขึ้น..
ต้องให้มันง่ายเข้าไว้..
"เจมส์ เคลียร์" ไม่เคยส่งการ์ดอวยพรในโอกาสสำคัญ ให้ใครสำเร็จสักที แต่ภรรยาของเขาทำได้อย่างสบาย ..เธอเพียงแค่ซื้อบัตรอวยพรไว้ล่วงหน้า แล้วเก็บไว้ที่บ้าน พอถึงโอกาสที่จะต้องแสดงความยินดีหรือเสียใจกับใคร เธอก็สามารถหยิบบัตรอวยพรขึ้นมาเขียนได้ทันที..
ต้องน่าพึงพอใจ..
นี่เป็นกฎข้อสำคัญที่สุดสำหรับการสร้างนิสัยของเรา..คนเราโดยธรรมชาติแล้วถ้าทำอะไรแล้วมีความสุข ก็มักอยากจะทำต่อ เราจึงจำเป็นต้องสร้างนิสัยที่น่าพอใจเข้าไว้..อุปสรรคอันแท้จริงที่ขัดขวางการสร้างนิสัยของเราก็คือ...สิ่งที่เราพยายามทำ มันยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจโดยทันที...เเต่เราจะได้เรียนรู้และตระหนักในคำตอบของมัน เมื่อถึงวันหนึ่งแห่งอนาคต อย่างแน่นอน..
ว่ากันว่า..หนังสือนี้.. จะทำให้เราตระหนักถึงข้อปฏิบัติอันควรจะเป็นของชีวิต จนเป็นนิสัย..บางครั้งเราอาจจะพยายามทำอะไรอยู่ แต่น่าเสียดายที่มันไม่ก่อเกิดหรือติดเป็นนิสัย..และก็มีอยู่บ่อยครั้ง ที่เราเลิกนิสัยไม่ดี ที่กระทำจนติดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แล้วไม่ได้..
ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้..หนังสือ"Atomic Habits" จะเป็นทางสว่าง อันเป็นหนทางรอดสู่การปฏิบัติแก่เราได้เป็นอย่างดี..ซึ่งนี่เองที่ทำให้คุณค่าของหนังสือนี้ เต็มไปด้วยเงื่อนไขแห่งคุณค่า ของการจดจำ..
นับแต่เริ่มต้นวางจำหน่ายเมื่อปีค.ศ.2018..ก็ติดอันดับหนังสือขายดีในหลายสำนัก..ไม่ว่าจะเป็น"USA Today"/"Publisher 'sWeekly"/รวมทั้ง "Wall Street Journal..
นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ ยังเป็นที่ต้องใจ ถูกใจของนักเขียนดังอีกหลายคน อาทิ "มาร์ค แมนสัน"นักเขียนขายดี"New York Times Bestseller "จากหนังสือ"ชีวิตติดปีกด้วยศิลปะแห่งการช่างแม่มัน"อันลือลั่น..หรือ อีกคนหนึ่งคือ"Adam Grant"เจ้าของผลงาน"ยิ่งให้ยิ่งได้รับมากกว่าเดิม"(Give and Take)..รวมทั้งผู้เขียน.."วิธีแก้ปัญหาคือใช้ปัญหาแก้"(TheObstacle is the way)..
"เจมส์ เคลียร์"..ได้เน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญที่จะทำให้เส้นแบ่ง ความสำเร็จหรือความล้มเหลวชัดเจนยิ่งขึ้น นั่นหมายถึง"เวลา"..เวลา จะส่งผลทวีคูณต่อสิ่งใดๆ ที่คุณป้อนให้กับมัน "นิสัยที่ดี"จะทำให้เวลา กลายเป็นพันธมิตร..ส่วนนิสัยที่ไม่ดี จะทำให้เวลา กลายเป็นศัตรู
"นิสัยเปรียบเหมือนดาบสองคม นิสัยที่ไม่ดีจะเป็นตัวถ่วงได้ง่าย พอๆกับนิสัยที่ดีที่จะเป็นตัวส่งเสริมคุณ การทำความเข้าใจในรายละเอียดของการสร้างนิสัย จึงเป็นเรื่องสำคัญ เราจำเป็นต้องรู้ว่านิสัยส่งผลกระทบอย่างไร..และจะสร้างพฤติกรรมเพื่อสนอง รวามต้องการของเราอย่างไร..โดยการหลีกเลี่ยงคมดาบอีกด้านที่เป็นอันตราย.."
โดยบทสรุป..นิสัยต่างๆที่สั่งสมเพื่อพัฒนาหรือขัดขวางตัวเรา..ประกอบด้วย..
การสั่งสมในทางบวก..
ซึ่งหมายถึง.".การสั่งสมความรู้".ที่ระบุถึงใจความสำคัญเอาไว้ว่า..การเรียนรู้ไอเดียใหม่ๆได้แค่หนึ่งอย่าง ย่อมไม่ทำให้เราเป็นอัจฉริยะ..แต่การตั้งใจเรียนรู้ตลอดชีวิต สามารถสร้างอัจฉริยะและความเป็นอัจฉริยะให้เกิดขึ้นได้..
สั่งสมความสัมพันธ์ที่ดี..
ผู้คนจะเป็นตัวสะท้อนพฤติกรรมต่างๆ ของคุณกลับไปที่คุณ ยิ่งคุณช่วยเหลือผู้อื่นมากเท่าไหร่ พวกเขาก็อยากช่วยเหลือคุณกลับมากขึ้น..เท่านั้น..และ..*สั่งสมประสิทธิภาพและประสิทธิผล..
การทำงานได้สำเร็จมากขึ้นอีกหนึ่งอย่าง..คือชัยชนะเล็กๆในแต่ละวัน มันจะช่วยส่งเสริมชีวิตการทำงาน และทำให้..ผลงานที่ทำเป็นประจำดีขึ้น..รวมทั้งช่วยเสริมส่งให้ ทักษะใหม่ๆ สามารถพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก..
หากเราได้ย้อนมองชีวิตสู่อดีต..เราย่อมค้นพบข้อประจักษ์ของสัจจะแห่งความเป็นชีวิต ผ่านองค์รวมของหนังสือเล่มนี้อย่างน่าอัศจรรย์..มันจักทำให้เราตระหนักถึงแก่นแท้แห่งนัยของความเป็นอยู่และดำรงอยู่ของเรา..ผ่านอุปนิสัยที่ปรวนแปรอยู่เนืองนิจ..นั่นหมายถึงว่า"นิสัย"จะเป็นตัวกำหนดตัวตนของเราในทุกเมื่อ..
"กระบวนการสร้างนิสัยที่แท้จริงของเรา..คือกระบวนการสร้างตัวตนของเราขึ้นมาอย่างชัดเจน" มันทำให้เราได้รู้สึกและรับรู้ว่า..."เป้าหมาย..ทำให้เราเป็นทุกข์"
เพราะเมื่อกระทำแล้ว กลับไม่บรรลุผลตามเป้า เราก็จะเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ..
การปรับแก้นิสัยอย่างง่ายๆ ต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นในด้านใดก็ตาม..จะทำให้ชีวิตของเราโดดเด่นและแตกต่าง..อันเป็นคุณลักษณะที่จะทำให้เรา มีสภาวะเหนือกว่ากลุ่มคนโดยทั่วไป
"การเปลี่ยนนิสัย หรือพฤติกรรมให้เป็นไปในทิศทางที่ดี หรือเป็นไปในทิศทางที่เราต้องการ คือการลดความพยายามในการกระทำ หรือ เริ่มต้นพฤติกรรมนั้น ให้เป็นไปโดยง่ายที่สุด"