บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท (“SVR”) คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ วงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 7 ต่อปี และชุดที่ 2 อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 7.35 ต่อปี โดยชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน จ่อเสนอขายให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่ -ผู้ลงทุนสถาบัน ขั้นต่ำ 100,000 บาท ดีเดย์เปิดขายวันที่ 26 - 28 มิ.ย.นี้ ผ่านโบรเกอร์ 5 แห่ง บล.โกลเบล็ก, บล.ดาโอ, บล.พาย, บล.บียอนด์ และ บล.ฟิลลิป ระบุนำเงินที่ได้ใช้เป็นเงินทุนซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการอสังหาฯ 440 ล้านบาท และชำระหนี้เงินกู้ยืม 160 ล้านบาท
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “SVR” ผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยแนวราบ สอดรับคอนเซ็ปต์การพัฒนาโครงการแบบหมุนเร็ว (Quick Turnover) ก่อสร้างเร็ว-ขายเร็ว - ส่งมอบเร็ว และความคุ้มค่า ( Premium Economy) ภายใต้แนวคิด “Best Smart Living” เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบ กำหนดไถ่ถอน “หุ้นกู้ของบริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2566 ชุดที่ 1 จำนวนไม่เกิน 600 ล้านนบาท โดยแบ่งเป็นหุ้นกู้ชุดที่ 1 ไม่เกิน 300 ล้านบาท อายุ 1 ปี 9 เดือน มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 7 ต่อปี และชุดที่ 2 ไม่เกิน 300 ล้านบาท อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 7.35 ต่อปี โดยชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน และครบกำหนดไถ่ถอน วันที่ 29 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน ได้ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. 67 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บริษัทฯมีแผนเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่ และ ผู้ลงทุนสถาบัน โดยเสนอขายขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ระหว่างวันที่ 26 - 28 มิถุนายน 2566 ผ่านผู้จัดการจัดจำหน่าย 5 บริษัทหลักทรัพย์ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ,บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
สำหรับวัตถุประสงค์การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อต้องการนำเงินที่ได้ใช้เป็นเงินทุนซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 440 ล้านบาท และเพื่อนำไปชำระหนี้เงินกู้ยืม จำนวน 160 ล้านบาท และยังเป็นการสอดรับแผนกลยุทธ์การขยายการพัฒนาโครงการใหม่ๆที่เข้าใกล้พื้นที่โซน CBD รอบทิศของกรุงเทพฯ รวมถึงแผนการเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ ในครึ่งปีหลัง จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,621 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. โครงการสิวารมณ์ วิลเลจ (บางกรวย-ไทรน้อย) มูลค่าโครงการ 691 ล้าน 2.โครงการ สิวารมณ์ ปาร์ค (ซอยประชาอุทิศ 76) โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการ 528 ล้านบาท และ 3.โครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการ 401 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯมีแผนกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินค้า โดยขยายฐานกลุ่มลูกค้าผู้อยู่อาศัยระดับบนผ่านโครงการระดับพรีเมี่ยม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของรายได้และกำไรให้กับบริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพการเติบโต สู่ระดับ High Growth ในอนาคตตามเป้าหมายที่วางไว้
“การเสนอขายหุ้นกู้ของ SVR ในครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้ขยายโครงการในอนาคต สู่การตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาโครงการแบบหมุนเร็ว (Quick Turnover) ที่การมองตลาดเร็ว และพร้อมปรับตัวรองรับทุกสถานการณ์ตลอดเวลา ที่สะท้อนออกมาเป็นตัวเลขผลการดำเนินงาน 2 ปีย้อนหลังที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยในปี 2564 มีรายได้รวม 564 ล้านบาท กำไรสุทธิ 63 ล้านบาท , ปี 2565 มีรายได้รวมที่ 725 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 58 ล้านบาท ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 227.47 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นจากการพัฒนาโครงการเพื่อขายเพิ่มขึ้นเป็น 33.96 % (จาก 30.39% ในปี2564) และล่าสุดไตรมาส 1/2566 มีรายได้รวม 215 ล้านบาท กำไรสุทธิ 24 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากผลการดำเนินย้อนหลัง แสดงให้เห็นถึงสร้างสถิตินิวไฮใหม่ ของ SVR อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นบทพิสูจน์สามารถที่ตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยแบบ Premium Economy (ความคุ้มค่า) ของกลุ่ม Real Demand ที่แท้จริง