บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” โดยกลุ่มธุรกิจโปรตีนและอาหาร ตอกย้ำจุดประสงค์และความเชื่อในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน โชว์ศักยภาพการเป็นแบรนด์ธุรกิจอาหารชั้นนำระดับสากล ต่อยอดแนวคิด “Smart Solution for Sustainable life” ในงาน “THAIFEX-ANUGA ASIA 2023”
นายไตรรัตน์ ทองปลอด ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจโปรตีน เบทาโกร เปิดเผยว่า ในงาน “THAIFEX-ANUGA ASIA 2023” เบทาโกรได้ต่อยอดแนวคิด “BETAGRO Smart Solutions for Sustainable life” นำเสนอ “Intelligent Business Solution” ด้วยนวัตกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มุ่งตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ประกอบการอาหาร ทั้งกลุ่มอาหารสด อาหารแปรรูป อาหารพร้อมปรุงและอาหารพร้อมทาน ควบคู่ไปกับการนำเสนอบริการชั้นเลิศแบบครบวงจร ทั้งการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ การแนะนำช่องทางการจัดจำหน่ายแบบค้าส่ง “Betagro Shop” และการขนส่งผ่านเครือข่ายโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ภายใต้ “KERRY COOL” เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความสำเร็จทางธุรกิจร่วมกัน
สำหรับไฮไลท์บูธเบทาโกรในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 ประกอบด้วย โซนนวัตกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์คุณภาพ (Food Innovation) นำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพ ตั้งแต่เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา ไข่ไก่ อาหารพร้อมปรุง พร้อมทาน ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกในหลากหลายแบรนด์ ทั้ง Betagro, S-Pure และ Itoham ที่เกิดจากความมุ่งมั่นและตั้งใจในการคิดค้นนวัตกรรมอาหารของเบทาโกร โดยเฉพาะการดีไซน์แพ็กเกจตอบโจทย์ความสะดวกสบาย และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค รวมทั้งคำนึงถึงการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อย่าง S-Pure ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ซุปเปอร์พรีเมี่ยมคุณภาพสูงจากธรรมชาติ 100% (100% NATURAL PURE PRODUCT) เป็นแบรนด์แรกและหนึ่งเดียวที่ได้รับการรับรองการเลี้ยงแบบไม่ใช้ยาปฎิชีวนะ (Raised Without Antibiotics - RWA) จาก NSF สหรัฐอเมริกา รวม 3 ผลิตภัณฑ์ทั้งหมู ไก่ ไข่ ตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดย S-Pure เป็นแบรนด์แรกในกลุ่มสินค้าอาหารสดของไทยที่ใช้บรรจุภัณฑ์ถาดกระดาษ (Paper Tray) ในผลิตภัณฑ์เนื้อหมูและเนื้อไก่ ซึ่งช่วยลดการใช้พลาสติกได้ถึง 80% นอกจากนี้ยังมี S-Pure Perfect Portions หมูและไก่ในซองแบ่งบรรจุสะดวกใช้ ล๊อกความสดสะอาด พร้อมบรรจุในถุงซิปล็อกเพื่อใช้งานง่ายและสะดวก รวมถึง S-Pure Portion Pack ที่ใช้แพ็กเกจถาดแบ่งบรรจุ ใช้สะดวก ช่วยประหยัดเวลาและพื้นที่การจัดเก็บ สามารถตัดแบ่งใช้เพื่อความสดและปลอดเชื้อ
ทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่จาก S-Pure โดยในกลุ่มไส้กรอก แฮม เบคอน ที่นำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ “S-Pure Prime” ซึ่งถูกรังสรรค์ความอร่อยจากธรรมชาติ โดยผลิตจากเนื้อหมู เนื้อไก่ S-Pure 100% ปราศจากสารปรุงแต่ง สารกันบูด และวัตถุเจือปนอาหาร ที่สำคัญยังใช้บรรจุภัณฑ์ถาดกระดาษและกล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษ ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ หลากหลายรายการ อาทิ S-Pure Rich Yolk Egg ไข่ไก่ไข่แดงสีส้มสดสวย จากการเลี้ยงด้วยสารสกัดจากผลปาปริก้าธรรมชาติ รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม S-Pure Chef Table Series สเต๊กระดับพรีเมียม อร่อยหมือนเชฟมาทำให้ทาน และโจ๊กไข่ขาวผสมซุปไก่สกัด โจ๊กไข่ขาวผสมข้าวโอ๊ต
ขณะที่แบรนด์ Betagro ยกทัพนำผลิตภัณฑ์คุณภาพ ภายใต้มาตรฐานการจัดการเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารในระดับสูงสุด (Betagro Quality Management - BQM) ที่ครอบคลุมการตรวจสอบ ติดตาม และควบคุมคุณภาพการผลิตตามมาตรฐานอาหารปลอดภัยระดับสากล อาทิ ผลิตภัณฑ์หมูบด ไก่บดปรุงรสด้วยเครื่องปรุงเข้มข้นบรรจุในหลอด ไข่ไก่สดอนามัยจากแม่ไก่สุขภาพดีที่อุดมด้วยวิตามินนานาชนิด รวมถึงขาหมูเยอรมัน นักเก็ตไก่กรอบ ไส้กรอกฮอทดอกรมควัน ไส้กรอกสโมคเวียนเนอร์ และพิงค์กุ วาฟเฟิล ที่อร่อย นุ่ม หอมไส้กรอกนม ตลอดจนอาหารพร้อมทานในสไตล์อิตาเลียน ชูรสชาติความอร่อยที่เหนือระดับ คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศนำเข้าจากต่างประเทศ อาทิ สปาเก็ตตี้ซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิลและแฮม และสปาเก็ตตี้โบโลเนสพอร์คบอล มาร่วมจัดแสดงอย่างคับคั่ง ในขณะที่แบรนด์ Itoham มาพร้อมสินค้าไส้กรอกอะระบิกิพรีเมียมรสชาติต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น อย่าง Bayern Wiener Arabiki เป็นต้น
ทั้งนี้ที่สำคัญยังมีการนำเสนอนวัตกรรมโปรตีนทางเลือก ภายใต้แบรนด์ “Meatly!” แพลนต์เบสโปรตีนพรีเมียม ที่ขนความอร่อยมาพร้อมผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบอาหารพร้อมทาน (Ready to eat) เพื่อตอบรับกระแสความนิยมในการรับประทาน Plant-based และ Vegan food ที่เพิ่มสูงขึ้น และไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่มีความเร่งรีบ ใน 5 ซีรีส์เมนูอาหาร ได้แก่ อาหารไทย “ต้นตำรับ รสชาติไทย” ที่เน้นความจัดจ้านถึงใจ ได้แก่ หลนเต้าเจี้ยว น้ำพริกลงเรือ และคั่วกลิ้งหมูสับจากพืช นอกจากนี้ยังมีซีรีส์เมนูอาหารจีน, อาหารตะวันตก, อาหารญี่ปุ่น และอาหารเกาหลี รวมถึงจะมีเมนูใหม่ที่พร้อมเสิร์ฟลูกค้าในช่วงเทศกาลกินเจอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโซนนำเสนอผลิตภัณฑ์ส่งออกคุณภาพ เพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและครอบคลุม และเป็นการเปิดตลาดใหม่ ๆ กับคู่ค้าในอีกทางหนึ่งด้วย
ดร.โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร เบทาโกร กล่าวเสริมว่า สำหรับ โซนบริการชั้นเลิศที่มุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการอาหารอย่างครบวงจร (Service Excellence) เบทาโกรโชว์ศักยภาพด้านการบริการ โดยมี “ศูนย์นวัตกรรมอาหาร (Food Innovation Center - FIC)” ที่พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดธุรกิจ ด้วยการมอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟผ่าน เมนูอาหารที่ถูกรังสรรค์สุดพิเศษ ในรูปแบบ “Chef’s Table by Chef FIC” ตลอดจนการพูดคุยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาเมนูอาหารที่จะสร้างความแตกต่าง สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจลูกค้า พร้อมกันนี้ภายในงานจะได้พบกับ “Celebrity Chef Cooking Show” ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “The Amazing Taste of Thai” โดยเชฟชื่อดัง อาทิ “เชฟกันน์ สรวิศ แสงวณิช”, “เชฟอาร์ ธีรภัทร ตียาสุนทรานนท์”, “เชฟเป่าเป้ เจสสิก้า หวัง” และ “เชฟปิง สุรกิจ เข็มแก้ว” อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีโซน “Intelligent Business Solution” ที่พร้อมให้คำปรึกษาด้านธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการอาหารภายใต้ แนวคิด “เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” และในปีนี้กลับมาอีกครั้งกับเวทีการแบ่งปันประสบการณ์ ความสำเร็จ และความประทับใจในการทำงานร่วมกับเบทาโกรที่ยืนหยัดเคียงข้างเป็นพันธมิตรร่วมกันในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยพบกับ นิตยาไก่ย่าง, ไก่ทอดเดช, หมูแดงแสงทอง และเป็นลาว ที่สำคัญยังได้สัมผัสกับ “Betagro Shop” แหล่งรวมสินค้าและบริการครบวงจร สำหรับผู้ประกอบธุรกิจด้านอาหารและผู้บริโภคทั่วไป โฉมใหม่ ด้วยภาพลักษณ์ที่ทันสมัย คล่องแคล่ว ฉับไว เพื่อยกระดับการให้บริการผู้ประกอบการอาหารที่ดียิ่งขึ้น ตอกย้ำจุดยืนของ Betagro Shop ที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในธุรกิจของคู่ค้า
ส่วนไฮไลท์สุดท้าย พบกับ “KERRY COOL” ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเบทาโกรและเคอรี่ เพื่อให้บริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Delivery Platform) สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสดแช่เย็น ไปจนถึงเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์แช่แข็งต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีและบริการที่มีคุณภาพซึ่งพร้อมให้คำแนะนำและบริการกับกลุ่มผู้ประกอบการที่สนใจภายในงานอีกด้วย
สำหรับ THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 ในปีนี้ เบทาโกรมั่นใจว่าในปีนี้จะมีคู่ค้าหรือพันธมิตรที่เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ผู้ประกอบการอาหารจากกลุ่มประเทศยุโรป อย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ ผู้ประกอบการอาหารจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และผู้ประกอบการอาหารจากเอเชีย อย่างจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง และสิงค์โปร์ โดยมีทีมการจัดการลูกค้าสัมพันธ์คอยให้คำปรึกษาในทุกข้อสงสัยในแต่ละวันตลอดงาน เพื่อสนับสนุนความสำเร็จทางธุรกิจของผู้ประกอบการอาหาร และเพื่อชีวิตที่ยั่งยืนของทุกคน