เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 พ.ค. 2566 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารมว.มหาดไทย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะออกเดินทาง ไปตรวจติดตามสถานการณ์สาธารณภัย (วาตภัย) ที่ จ.พิจิตร ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 7 ราย ได้รับบาดเจ็บ 18 คน สำหรับพื้นที่ อ.สามง่าม มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 3 ตำบล คือต.เนินปอ ,ต.รังนก และต. กำแพงดิน กว่า 408 หลังคาเรือน    

เมื่อมาถึงพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางต่อด้วยรถ Toyota Alphard ทะเบียน 1 ขศ 87 กรุงเทพมหานคร ไปที่จุดแรกศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และให้ความช่วยเหลือสาธารณภัยวาตภัย โรงเรียนวัดเนินปอ อ.สามง่ามจ.พิจิตร  โดยได้ตรวจจุดเกิดเหตุบริเวณลานสนามฟุตบอล และดูสภาพความเสียหายของโรงเรียน พร้อมสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้ถอดบทเรียน และกำชับเรื่องการดูแลเยียวยา หากส่วนไหนทางจังหวัดไม่สามารถดำเนินการได้ให้ร้องขอมาทางส่วนกลาง ทั้งนี้เบื้องต้นได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหารและตำรวจ ฟื้นฟูดูแลโดยเร็วที่สุด 

จากนั้นนายกฯ ได้รับฟังบรรยายสรุป จากกองอำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ ตนมาดูความเดือดร้อนต่าง ๆ เพื่อรับทราบในสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ ซึ่งทราบว่ามีการประกาศภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทยแล้ว ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครอยากให้ใครเกิดขึ้น ในส่วนความช่วยเหลือขอย้ำให้รวดเร็วที่สุด ส่วนเรื่องการซ่อมบ้านต่าง ๆ ตำรวจ ทหาร ต้องเข้ามาช่วยกัน พร้อมขอให้กองอำนวยการร่วมติดตามขั้นตอนการช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย โดยขอสั่งการในเชิงนโยบายวันนี้ ให้ติดตามพื้นที่ความเสี่ยงในทุกพื้นที่ทั้งนี้ทุกอย่างเมื่อมีเหตุก็ต้องมีวิธีการบริหารต่อไป จะต้องมีการสแตนบายของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งเข้าช่วยเหลือไม่ใช่เกิดแล้วเพิ่งเรียกมา ต้องมีช่องทางการสื่อสาร สิ่งสำคัญความพร้อมของส่วนอำนวยการผู้ว่าราชการจังหวัด จะต้องมีแผนขั้นต้นว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภัยพิบัติ จังหวัดเคยมีอะไรบ้าง ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง อุทกภัย สาธารณภัย ทั้งหมดจะต้องมีแผนสำรองไว้ ทั้งระดับ 1 ระดับ 2 และระดับ 3 

 

นายกฯ  กล่าวอีกว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ดูแลทุกอย่างในการช่วยเหลือ ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง นี่คือสถาบัน ที่สร้างขวัญกำลังใจของพวกเราทุกคน ซึ่งต้องอยู่ด้วยความรักความสามัคคี  ตนเสียใจกับผู้สูญเสีย ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทยก็ต้องมาดูแล ซึ่งไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ขอให้กระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้น พวกท่านอยู่ยาวนาน บ้านเมืองต้องอยู่ รัฐบาลมาเดี๋ยวก็ไป 

จากนั้นนายกฯ ได้เดินพบปะให้กำลังใจ ประชาชน และ นักเรียน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุวาตภัย โดยมีกลุ่มประชาชนและเด็กเล็ก ตะโกนเชียร์ เสียงดังว่า เรารักลุงตู่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ระหว่างการลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชน มีนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. มาร่วมคณะ กับพล.อ.ประยุทธ์ ด้วย โดยเจ้าตัว ระบุว่า มาในฐานะคนในพื้นที่ 

ต่อจากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางมาให้กำลังใจประชาชน ภายในศาลาวัด พร้อมระบุว่า ในนามนายกรัฐมนตรี มาเยี่ยมเยียนติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น  ในนามรัฐบาลและประชาชนทั้งประเทศ ขอแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่เราเรียกกลับมาไม่ได้คือชีวิต ซึ่งก็ต้องอุทิศส่วนกุศลทำพิธีให้อย่างสมเกียรติ และอีกกลุ่ม คือ คนบาดเจ็บ หนักบ้างเบาบ้าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ในส่วนรัฐบาลมีงบประมาณจากสำนักนายกรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ ขอให้ใช้อย่างเป็นประโยชน์มากที่สุด เพราะแลกมาด้วยความสูญเสียหลายอย่าง ขอให้ใช้อย่างประหยัดที่สุดในการดูแลซ่อมสร้างบ้านเรือนต่าง ๆ ให้เกิดความแข็งแรง และกลับมาเหมือนเดิม ทั้งนี้ได้สั่งให้ทหารมาดูแลแล้ว 

"ในฐานะนายกฯก็ต้องคิดว่าสถานการณ์จะเกิดขึ้นอีกไหม มันน่าจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เพราะโลกเปลี่ยนแปลง เคยพูดไปแล้ว นี่คือสภาวะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อะไรไม่เคยรุนแรงก็จะรุนแรง อะไรไม่เคยเกิดก็จะเกิด เพราะวันนี้โลกมีปัญหาเรื่องโลกร้อน ตนพูดมาพอสมควร ซึ่งเราจะต้องดูแลรักษา ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าดูแลรักษาโลกไปด้วย นั่นคือสิ่งที่ขอฝากพวกเราทุกคน รัฐบาลไม่เคยละทิ้งความห่วงใย ที่มีให้กับประชาชน ไม่ว่าจะมีรายได้เท่าไหร่ก็ตาม ซึ่งต้องดำรงชีวิตอยู่อย่างพอเพียงให้ได้ แล้วจะมีการพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้น ลูกหลานครอบครัวจะต้องมีความมั่นคงแข็งแรง เข้มแข็ง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของประเทศไทย  ขอฝากพวกเราช่วยกันดูแลอย่างดีที่สุด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

 

นายกฯ  กล่าวอีกว่า ท้ายที่สุดนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่เตรียมความพร้อมไว้อย่างดี เหลืออย่างเดียวคือการปฏิบัติ วันนี้คนไทยต้องรักกัน ดูแลกัน จะต้องไม่แตกแยกกัน นี่คือประเทศไทยของเรา และเนื่องจากวันนี้ยังมีปัญหาในเรื่องของกฎหมายอยู่เรื่องการแจกของต่างๆ จะให้ทางปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ในการมอบของใช้ที่จำเป็น ถุงยังชีพ อย่างน้อยมีข้าวปลาอาหารกิน เงินทองก็จะทยอยเบิกมาได้ สั่งไปหมดแล้ว หากติดขัดอะไรต่างๆ ก็ประสานกันให้ดี หากทุกคนมีหลักฐานก็จบ เพราะเรามีการเดินสำรวจอยู่แล้ว ขอให้ทุกคนซื่อสัตย์กับตัวเอง โอเคนะ รักทุกคนเหมือนเดิมยิ่งเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ยิ่งรักมากกว่าเดิม เพราะคนไทยหัวใจเดียวกัน ความรักความสามัคคี และความห่วงใย มีอุดมการณ์ในทางที่ดีถูกต้อง ขอบคุณทุกคนอีกครั้ง ขออย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในพื้นที่อื่น หรือที่ใดก็ตาม ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งจะต้องระมัดระวังในโอกาสต่อไป 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ขอบคุณท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปภ.ต่างๆในพื้นที่ กรมสุขภาพจิต ใครคิดอะไรไม่ออกก็ปรึกษากรมสุขภาพจิต เขาจะพูดให้เรารู้สึกสงบขึ้น โรงเรียนจะหาวิธีการทำอย่างไรให้ได้เรียนได้สอนต่อ โดยรมว.ศึกษาฯ ได้มาดูแล้ว วันนี้บินมาก็เห็นน้ำท่าดี แต่ปัญหาคือ สินค้าด้านการเกษตรเรามีกำลังขายแต่กำลังซื้อ ไม่เพียงพอ ซึ่งรัฐบาลจะเข้ามาช่วยในสิ่งที่ทำได้ ไม่ทอดทิ้งพวกเราตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้มอบถุงยังชีพแทนเนื่องจากช่วงนี้ ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 

จากนั้นเวลา 11.30 น. นายกฯ ได้เดินทางไปเคารพศพผู้สูญเสีย ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลภายในบ้าน คือ นายดำ อ่อนแดง อายุ 58 ปี และเด็กชายวัชรากร พันวัน อายุ 6 ขวบ พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจ ครอบครัวผู้สูญเสียก่อนเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ที่ โรงพยาบาลพิจิตร ทั้งนี้เมื่อมาถึงมีประชาชนมาให้กำลังใจและบอกว่า เรารักลุงตู่เราเป็นประชาชนเราเข้าถึงลุงตู่และได้กอดลุงตู่