จากกรณีตำรวจบช.สอท.เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งคอลเซนเตอร์ “แก๊งตึกประตูดำ หน้าวัดตาด ปอยเปต” หลังขบวนการดังกล่าวออกอุบายหลอกลวงอ้างว่าเป็นพนักงานบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งมีพัสดุผิดกฎหมายส่ง จากต่างประเทศติดที่กรมศุลาการ และทําผิดฐานฟอกเงิน มีเหยื่อจึงหลงเชื่อโอนเงินไปจํานวนหลายราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 145 ล้านบาท จนนำมาสู่การออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนบัญชีม้า พนักงานโทรศัพท์ ล่ามแปลภาษา ผู้จัดหาพนักงานและสมุดบัญชีธนาคาร และหัวหน้าแก๊งผู้ควบคุมดูแลพนักงานคอลเซ็นเตอร์ รวมกว่า 58 หมายจับ และจับกุมผู้ต้องหาไปได้แล้วบางส่วน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 24 พ.ค.66 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 จับกุมผู้ต้องหานายวรพรต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลอาญาข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง ประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร , ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” โดยจับกุมได้ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.กรุงเทพ 

สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ ได้พยายามติดตามการจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ชื่อแก๊งตึกประตูผีนี้ ให้ได้ทั้งแก๊ง ต่อมาสืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ ได้ถูกเกณฑ์ทหารอยู่ ตำรวจไซเบอร์ จึงได้ประสานไปที่ กองพันต้นสังกัด ของพลทหารรายนี้ และได้รีบความร่วมมือจากผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดเป็นอย่างดี โดยได้นำตัวผู้ต้องหามาส่งให้กับชุดสืบสวนตำรวจไซเบอร์ ณ บริเวณหน้ากองพัน จึงได้ทำการจับกุมตามหมายจับดังกล่าว เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 

พ.ต.อ.ทำนุรัฐ กล่าวว่า ฝากไปยังประชาชนให้พึงระวังการหลอกลวงลักษณะดังกล่าว ต้องรู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ ควรมีสติก่อนการโอนเงิน ทุกครั้ง ควรหาข้อมูลให้รอบด้าน อย่าหลงเชื่ออะไรง่าย ควรตรวจสอบให้ดีก่อน ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน การปฏิบัติการของ บช.สอท. เร่งดําเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทํา ความผิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม คํานึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน