นายธีรยุทธ ภูมิศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่กทม.ปีนี้ ว่า สปภ.มีแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ประจำปีอยู่แล้ว ซึ่งมีหลายส่วนเกี่ยวข้องทั้งสำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักพัฒนาสังคม และสำนักงานเขตพื้นที่ โดยปัญหาที่พบนอกจากขาดน้ำในพื้นที่เกษตร ยังมีปัญหาถนนทรุดจากการที่น้ำในคลองแห้ง ซึ่งจะพบในถนนริมคลองและลำประโดงต่างๆ รวมถึงไฟไหม้หญ้า ที่มักจะเกิดในช่วงอากาศแห้งตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงพฤษภาคม ซึ่งในปีนี้สถิติไม่ได้เพิ่มขึ้น ส่วนปรากฎการคลื่นความร้อนที่รุนแรงในปีนี้ ก็อาจมีผลกระทบบ้างในกรณีเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นแล้วจะทำให้รุกรามเร็วสร้างความเสียหายมากขึ้น แต่ไม่ใช่เป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นได้ โดยสถิติสาเหตุไฟไหม้ในเมืองจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

นายธีรยุทธ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ต้องดูข้อมูลในปีนี้ว่าภัยแล้งจะรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ซี่งที่ผ่านมากทม.จะได้รับผลกระทบในพื้นที่เกษตรส่วนใหญ่ทางฝั่งตะวันออก ย่านเขตหนองจอก ลาดกระบัง มีนบุรี  ส่วนฝั่งธนบุรีจะมีปัญหาเรื่องของน้ำเค็ม ซึ่งเรามีคณะกรรมการบริการจัดการน้ำแห่งชาติ (กนช.) คอยประเมินสถานการณ์และบริหารจัดการน้ำในภาพรวมอยู่ สำหรับความพร้อมปฏิบัติการในช่วงฤดูฝน สปภ.ได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย เครื่องมือเและอุปกรณ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกันได้ขอให้ผู้อำนวยการเขตสำรวจความเสียหายต่างๆ พร้อมจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ประสบภัยและทรัพย์สินที่เสียหายและออกหนังสือรับรองให้ผู้ประสบภัยไว้เป็นหลักฐาน หากมีพายุฝนและลมกระโชกแรงจนทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนอันเป็นสาธารณภัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 เพื่อขอรับการสงเคราะห์และฟื้นฟูจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบเหตุสาธารณภัยจากพายุ หรือเหตุสาธารณภัยอื่นๆ สามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง