วันที่ 23 พ.ค. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกระแสข่าวจะไปร่วมกับบางพรรคจัดตั้งรัฐบาล ว่า การจัดตั้งรัฐบาลชัดเจนระดับหนึ่ง ว่ามี 8 พรรคการเมืองร่วมกัน สถานการณ์เวลานี้ ต้องเป็นไปตามนั้น ส่วนจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ มีหน้าที่อะไรต้องทำหน้าที่นั้นให้สมบูรณ์แบบที่สุด เราเคยทำมาทุกหน้าที่
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่นายจุรินทร์ จะลงสมัครแข่งอีกครั้งหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนคิดแต่ส่งไม้ต่อให้คณะกรรมการบริหารพรรคฯชุดใหม่ ว่าจะทำให้ดีที่สุดได้อย่างไร และวันที่ 24 พ.ค.นี้ คณะกรรมการบริหารพรรคฯ ชุดรักษาการจะประชุม และพูดคุยถึงการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคฯชุดใหม่ ส่วนใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เป็นเรื่องที่สมาชิกพรรคต้องคิดร่วมกัน และเป็นความสมัครใจของผู้ที่ถูกเสนอชื่อด้วย ส่วนตัวอยากให้เป็นคนรุ่นใหม่ได้เข้ามาเป็นกก.บห.เพื่อขับเคลื่อนพรรค โดยไม่ขอพูดถึงตัวบุคคล
เมื่อถามย้ำว่า จะพูดคุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค จะวางมือทางการเมืองด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ก้าวล่วง แต่เวลานี้กก.บห.ทั้งหมด ยังต้องทำหน้าที่รักษาการต่อ และจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนเดิมทุกอย่าง ทั้งเรื่องกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไม่ว่าพรรคจะอยู่สถานะใดก็ตาม
เมื่อถามว่าหากพรรคก้าวไกล เดินหน้าเสนอแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันจะไม่ให้แก้ไขใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวย้ำว่า จุดยืนเราไม่เปลี่ยน และเป็นพรรคต้นๆ ที่ประกาศจุดยืนเรื่องนี้ และไม่ขอวิจารณ์เรื่องที่ไม่มีเรื่องแก้ไขมาตรา112 อยู่ในเอ็มโอยูตั้งรัฐบาล เนื่องจากทุกอย่างยังไม่นิ่ง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะให้ความเห็นอีกครั้ง
เมื่อถามว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นพรรคเพื่อไทย (พท.) จัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ จะไปร่วมด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องยังไม่เกิด ตอนนี้พรรคก้าวไกลร่วมกับอีก 7 พรรค กำลังจัดตั้งรัฐบาล เราจะไม่ไปเป็นอุปสรรค ปล่อยให้เขาทำหน้าที่ไป และหวังว่าจะทำได้สำเร็จ
เมื่อถามถึงท่าทีการลงมติของพรรคในสภา นายจุรินทร์ กล่าวว่า การลงมติเป็นหน้าที่ส.ส.ชุดใหม่ที่จะพิจารณา และตอบล่วงหน้าไม่ได้ว่าส.ส.จะโหวตอย่างไร ต้องรอให้พรรคประชุมส.ส.ก่อน คงจะพิจารณาเรื่องนี้
