เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 23 พ.ค. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ ของสูตรจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะรัฐบาลควรจะเป็นเสียงข้างมาก แต่ถ้าตั้งได้ก็ว่ากันไป ถ้าตั้งไม่ได้ พรรคที่ 2 หรือ 3 ก็มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่า หากจะมีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะมีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะพรรคที่ได้เสียงน้อย ได้ตั้งรัฐบาลนายธนกร กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ถึงอย่างไรก็มั่นใจว่ารัฐบาลต้องเป็นเสียงข้างมาก แต่จะสำเร็จหรือไม่อย่างไร ก็ต้องรอดูต่อไป แต่ตนคิดว่า ก้าวแรกของพรรคที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้สำเร็จแล้ว มันยังมีเวลา บางครั้งเราเห็นหน้าฉากกับหลังฉากในทางการเมือง มักจะแตกต่างกัน ดังนั้นตนคิดว่ายังมีเวลา แล้วเราก็เอาใจช่วยทุกพรรคอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หลังจากได้เห็นเอ็มโอยูจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลคิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง คิดว่าการตัดสินใจโหวตนายกฯ จะเปลี่ยนไปหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนว่ายังเหมือนเดิม ทุกฝ่ายก็มองออก การทําเอ็มโอยูมีการปรับลดอะไรต่างๆ เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ แต่ในข้อเท็จจริงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนเชื่อว่า ส.ส.และ ส.ว.ผู้ทรงเกียรติก็ทราบว่า เจตนาพิเศษคืออะไร ดังนั้นจึงคิดว่า ต้องไปดูเนื้อใน
เมื่อถามว่า ในเอ็มโอยูไม่ได้มีการเขียน เรื่องมาตรา 112 นายธนกร กล่าวว่า ก็ไม่ได้เขียน แต่เขาก็ทำได้ เพราะเขาบอกว่าเป็นสิทธิ์ของพรรคที่ทำได้ในหลายๆนโยบาย ซึ่งตนคิดว่าเขาทำอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการแสดงละครหน้าฉากหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น การร่วมรัฐบาลมีวิธีการหลายรูปแบบ บางครั้งขนาดทำเอ็มโอยูกันแล้วก็เปลี่ยนแปลงได้ ต้องดูเงื่อนไขที่ลงตัวมากกว่า และกระบวนการเลือกนายกฯก็มีหลายขั้นตอน ตนเอาใจช่วยอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครทสช. ให้กำลังใจสมาชิก ให้ใจเย็นๆนิ่งๆ หมายความว่ายังมีความหวังในการที่จะจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า คงไม่ นายกฯก็เป็นคนอย่างนี้อยากให้กำลังใจคนอื่น จริงๆแล้วพวกเราอยากให้กำลังใจท่าน แต่ด้วยความที่ท่านผ่านร้อนผ่านหนาวมาทุกรูปแบบมีประสบการณ์เยอะ ก็แนะนำส.ส.ใหม่ และแนะนำคนที่พ่ายแพ้ว่าอย่าท้อแท้ เส้นทางยังอีกยาวไกล ก็ให้กำลังใจพวกเราในการต่อสู้ แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์คือคำแนะนำของท่าน ถ้าเรานำไปทบทวนและไปปรับ อนาคตก็คิดว่าเราจะสามารถเป็นพรรคอันดับ 1 ได้ในอนาคต
เมื่อถามว่า หมายความว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่กับพรรคไปจนถึงพรรครทสช. จะได้อันดับ 1 เลยใช่หรือไม่นายธนกรกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่พูดถึงคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ของพล.อ.ประยุทธ์ อย่างบางพรรคหาเสียง ลงพื้นที่พบปะประชาชนมา 2 ปีแล้ว แต่พวกเราตั้งพรรคใหม่มาเพียงแค่ 3-4 เดือนก็ต้องปรับ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะยุบพรรคเพื่อย้าย ส.ส. มารวมเสียงกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่าขนาดสื่อมวลชนยังรู้สึกว่าใช่หรือเปล่า เพราะฉะนั้นคนไทยก็ตั้งข้อสังเกตได้ ก็ต้องรอดูว่ามันทำได้หรือเปล่า แต่จริงๆอยากให้มันจบๆ ไป พร้อมกล่าวว่า “ผมก็เป็นฝ่ายค้านก็ดี”