เว็บไซต์สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียหรือ AFC ประกาศการจัดลำดับ AFC Club Competition Ranking ประจำฤดูกาล 2022 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยโดยในฤดูกาลนี้ ประเทศไทยได้คะแนนรวมอยู่ที่ 49.470 ขยับขึ้นอันดับ 8 ของทวีปเอเชีย และยังรั้งอันดับ 4 ของเอเชียฝั่งตะวันออก เป็นรองเพียงลีกฟุตบอลอาชีพของ สาธารณรัฐประชาชนจีน, สาธารณรัฐเกาหลี และ ญี่ปุ่น

สำหรับการคิดคะแนนในรอบนี้เริ่มคิดคะแนนรวมตั้งแต่ฤดูกาล 2014 จนถึง 2022 โดยจะคิดทั้งคะแนนของลีกภายในประเทศและผลการแข่งขันที่ AFC จัดขึึ้น ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วทำให้ประเทศไทยได้ทั้งสิ้น 49.470 ขยับขึ้นจากอันดับที่ 9 ขึ้นสู่อันดับที่ 8 ของเอเชีย

และในฤดูกาล 2024/25 สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียหรือ AFC ได้มีการปรับโครงสร้างและรูปแบบการแข่งขันจากเดิมที่มีทั้งหมด 2 ระดับ (AFC Champions League และ AFC Cup) ด้วยการแบ่งระดับการแข่งขันใหม่ออกเป็นทั้งหมด 3 ระดับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการแข่งขันให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น โดยให้สิทธิแต่ละประเทศเข้าร่วมการแข่งขันโดยยึดตาม AFC Club Competitions 2024/25 Slot Allocation (East) อ้างอิงจาก AFC Club Competition Ranking ประจำฤดูกาล 2022

โดยสิทธิในการเข้าร่วมการแข่งขันของไทยลีก ที่ได้คะแนนเป็นลำดับที่ 4 ของเอเชียฝั่งตะวันออก จะได้สิทธิในการเข้าร่วมการแข่งขัน 1+1+1  ทีม แบ่งเป็น

โควต้ารอบ League Stage สำหรับการแแข่งขันในระดับ Tier 1 จำนวน 1 ทีม

โควต้ารอบ Preliminary Stage สำหรับการแข่งขันในระดับ Tier 1 จำนวน 1 ทีม

โควต้ารอบ Group Stage สำหรับการแข่งขันในระดับ Tier 2 จำนวน 1 ทีม

รูปแบบการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ที่จะเริ่มต้นรูปแบบใหม่ในฤดูกาล 2024/25 มีการปรับเปลี่ยนโดยแบ่งเป็น 3 ระดับดังนี้

Tier 1 จำนวน 24 ทีม (ELITE Club Championship)

โดยในการแข่งขันระดับ Tier 1 จะแบ่งตัวแทนเป็น โซน WEST 12 ทีม และ โซน EAST 12 ทีม โดยแต่ละทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน จะได้ทำการแข่งขันทั้งหมด 8 นัด โดยจะเป็นในรูปแบบคละทีมไม่ซ้ำกัน และได้เป็นทีมเหย้า 4 นัด และเป็นทีมเหย้า 4 นัด และจะคัดเลือกทีมที่ผลงานที่ดีที่สุด 8 อันดับแรกของทั้ง 2 กลุ่ม รวม 16 ทีม ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายจะแข่งกันแบบเหย้า-เยือน โดยรอบก่อนรองชนะเลิศจนถึงรอบชิงชนะเลิศจะแข่งขันแบบนัดเดียว โดยใช้สนามกลาง

Tier 2 จำนวน 32 ทีม

การแข่งขันระดับ Tier 2 จะมีทีมทั้งหมด 32 ทีมที่เข้าร่วม และจะแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมดในกลุ่ม (เหย้า-เยือน) นำทีมแชมป์กลุ่ม และรองแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ในรอบ 16 ทีม, รอบก่อนรองชนะเลิศ และรอบรองชนะเลิศ จะแข่งขันทั้งหมด 2 นัดแบบเหย้าเยือน ขณะที่รอบชิงชนะเลิศจะแข่งขันแบบนัดเดียวจบ

Tier 3 จำนวน 20 ทีม

การแข่งขันระดับ Tier 3 จะมี 20 ทีม เข้าร่วม และแบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งแบบพบกันหมดแต่เพียงนัดเดียว ไม่มีเหย้า-เยือน โดยใช้สนามกลางทำการแข่งขัน และโดยจะนำแชมป์กลุ่มของฝั่งตะวันตกจำนวน 3 ทีม อันดับ 2 ที่ดีที่สุดของกลุ่มฝั่งตะวันตก แชมป์กลุ่มฝั่งตะวันออกจำนวน 2 ทีม รองแชมป์กลุ่มฝั่งตะวันออกจำนวน 2 ทีม รวมทั้งสิ้น 8 ทีม ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ โดยที่รอบก่อนรองชนะเลิศ และรอบรองชนะเลิศ จะแข่งขันแบบเหย้า-เยือน ก่อนจะมาตัดสินกันในรอบชิงชนะเลิศ แบบนัดเดียวจบ

* ทีมที่ตกรอบรอบคัดเลือก จาก Tier 1 จะได้โอกาสมาเล่นใน Tier 2 เช่นเดียวกับทีมที่ตกรอบจากรอบคัดเลือก จาก Tier 2 จะได้โอกาสมาเล่นใน Tier 3

ไทยลีก ขอบคุณสโมสรสมาชิกทุกสโมสรที่ยังคงเดินหน้าเพื่อสร้างบรรทัดฐานและความมั่นคงของฟุตบอลภายในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับและเพิ่มสิทธิในการเข้าร่วมฟุตบอลรายการสำคัญระดับทวีปต่อไปในอนาคต