วันที่ 22 พ.ค.2566 ที่ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม.ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ร่วมกันเปิดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแนวทางต้านและลดการทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ “โครงการชุมชนเข้มแข็งพัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พ.ศ. 2566” โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารสำนักงานป.ป.ช. คณะกรรมการอำนวยการจัดทำแผนพัฒนาชุมชนระดับเขต จำนวน50 เขต ผู้แทนเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม และผู้แทนชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหาคร จำนวน 2,014 ชุมชน ซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมผ่านระบบการประชุมอิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Webinar) เข้าร่วม
นายนิวัติไชย กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการร่วมมือระหว่างสองหน่วยงาน ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างจริงจัง ตามแนวทางที่พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ได้ตกลงร่วมกันไว้เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา เพื่อยกระดับกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองหลวงที่โปร่งใส ปลอดจากสินบน และการทุจริตทุกรูปแบบ
วันนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จะเริ่มปูพรมกลไกลสหยุทธ์ขึ้นมา เพื่อมาช่วยกันต่อต้านการทุจริต โดยนำชุมชนต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ในเขตต่างๆของกรุงเทพมหานคร มาสร้างความรู้ความเข้าใจในเบื้องต้นว่าประเด็นสำคัญที่สุดในการป้องกันและปราบปรามคืออะไร รวมถึงสิ่งที่ต้องดำเนินการแก้ไขปรับปรุง ซึ่งต้องการความร่วมมือ จากกรุงเทพมหานครในเรื่องอะไร อย่างไรบ้าง
สำหรับภารกิจแรกที่จะร่วมดำเนินการกับ กทม.คือ การต้านและลดทุจริตในการดำเนินโครงการชุมชนเข้มแข็งพัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นโครงการสำคัญตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน จำนวน 2,014 ชุมชน ในพื้นที่ทั้ง 50 เขต โดยวัตถุประสงค์ของโครงการนอกจากจะสนับสนุนการพัฒนาชุมชนแล้ว ยังต้องการให้ประชาชนเจ้าของพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปตามความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น ความโปร่งใสในการดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ของโครงการจึงเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมในวันนี้
นายชัชชาติ กล่าวว่า สำหรับโครงการนี้ถือเป็นโครงการที่สำคัญมากระหว่างกรุงเทพมหานครและสำนักงานป.ป.ชเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ส่วนโครงการชุมชนเข้มแข็ง คือหัวใจหนึ่งในนโยบายของ กทม. คือการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดงบประมาณที่ลงไปสู่ชุมชน ไม่ให้ฝ่ายบริหารเป็นผู้กำหนดงบประมาณแต่ผู้เดียว เป็นการกระจายอำนาจลงสู่ชุมชน แต่เมื่อกทม.เปิดโอกาสให้ชุมชน มีการใช้จ่ายงบประมาณเอง ก็จะมีความกังวลในเรื่องของ ความโปร่งใส เรื่องระเบียบราชการ เจ้าหน้าที่ก็จะกังวลเพราะได้จัดสรรงบประมาณให้ชุมชนละ 200,000 บาท ในการแก้ปัญหาของตัวเอง กทม.จึงเลือกโครงการนี้มาเป็นโครงการนำร่องร่วมกับสำนักงานป.ป.ช.ในการทำให้โปร่งใสเพราะจะทำได้ 3 มิติ คือประชาชนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ที่กำกับดูแล และ เอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะได้เข้าใจระเบียบต่างๆเชื่อว่าโครงการนี้ ถ้าทำให้โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ 100% อนาคตจะขยายผล เป็นตัวอย่างให้กับโครงการต่างๆทั่วประเทศต่อไป