เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 21 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพงพาง  และกู้ภัยได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายยิงปืน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ2 ราย  ในบ้านพักหลังหนึ่ง  ภายในซอยจันทร์23  แขวงช่องนนทรี เขตคันนายาว กทม.

เมื่อไปถึงพบผู้เหตุยืนถืออาวุธปืนอยู่หน้าบ้าน เดินไปเดินมา ไม่ยอมให้กู้ภัย เข้าไปดูอาการผู้บาดเจ็บ  เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเจรจา  แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่ยอม เดินถืออาวุธปืนวนไปวนมา ลักษณะมีอาการเครียด บางครั้งถืออาวุธปืนมาจ่อที่ตัวเอง

ต่อมาเวลา 13.24น. ผู้ก่อเหตุอนุญาติให้กู้ภัยนำตัวหญิงที่บาดเจ็บออกมาได้  ส่วนผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมวางอาวุธปืน

ทั้งนี้มีรายงานว่า ผู้บาดเจ็บเป็นหญิง1ราย ถูกอาวุธปืนยิงที่บริเวณอกด้านขวา  ส่วนผู้บาดเจ็บอีก1รายเป็นชาย ถูกอาวุธปืนตบที่บริเวณศีรษะ ซึ่งทั้งผู้บาดเจ็บ และผู้ก่อเหตุเป็นอดีตทหารเกษียณอายุราชการ และเป็นพี่น้องกัน  ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุ

น้องชายผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า  ผู้เหตุพี่ชายคนโต  โดยเมื่อช่วงเช้านั่งกินข้าวกันปกติ  หลานอีก 1 คน  ร่วมเป็น 4 คน  ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุมีปากเสียงกับหลาน(ไม่ทราบสาเหตุ) จากนั้นแม่ของหลาน ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ก่อเหตุ  และเป็นหนึ่งในผู้บาดเจ็บได้เข้าไปช่วยห้าม   จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ชักปืนยิงน้องสาวเข้าที่บริเวณอกด้านขวา  ตนเองจึงไปช่วยห้าม  แต่พี่ชายไม่ฟัง และใช้ปืนตบที่หน้าตนเอง และขามขู่ว่าจะยิงให้หมดเลย  โดยน้องชายผู้เหตุยังเปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ทราบเพียงว่าผู้เหตุ  หรือพี่ชายมีปัญหาเรื่องเงินในครอบครัว  เป็นคนเงียบ และเก็บกด  ตนเองเชื่อว่าอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ  พี่ชายได้เตรียมการไว้ก่อนหน้านี้แล้ว 

ซึ่งในระหว่างที่มีการเจรจา  ผู้ก่อเหตุได้ขอว่าอยากพูดคุยกับสื่อมวลชน  ตำรวจจึงให้สื่อเป็นตัวแทนเข้าไปพูดคุย เจ้าตัวได้ระบายเพียงสั้นๆว่า ตนเองกลัวพี่ๆน้องๆจะโกง แย่งสมบัติ  แต่เนื่องจากผู้ก่อยังมีอาวุธปืนเหน็บอยู่ด้านหลังเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย  ตำรวจจึงกันผู้สื่อข่าวออกจากพื้นที่ ซึ่งในระหว่างที่พูดคุยกับผู้สื่อข่าวไม่ได้มีอาการเครียด ยิ้มแย้ม  ลักษณะอยากระบายให้ใครฟัง  ซึ่งตรงกับน้องชายเปิดเผยว่า พี่ชายไม่ได้ป่วย  หรือมีอาการจิตเวชมาก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวไว้ได้ และจะนำตัวไปสอบปากคำที่ สน.บางโพงพาง เพื่อสอบสวนต่อไป