วันที่ 20 พ.ค.2566 นายทรงเดช เสมอคำ ส.ว.กล่าวถึงกระแสข่าวขั้วการเมืองที่กำลังฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลเดินสาย ล็อบบี้ส.ว.กลุ่มอิสระ 50คน ที่มาจากกลุ่มอาชีพต่างๆเลือกกันเข้ามา ให้เลือกนายพิธาลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีว่า คนเป็นหนึ่งในส.ว.กลุ่มสายอาชีพ ยอมรับมีฝ่ายการเมืองติดต่อมาพูดคุยทำความเข้าใจ แต่ไม่ใช่เชิงล็อบบี้ขอคะแนนให้นายพิธา ส่วนตัวแล้วพร้อมโหวตสนับสนุนให้พรรคเสียงข้างมากได้เป็นนายกฯ แต่ไม่ทราบว่าส.ว.สายอาชีพคนอื่นๆจะคิดเหมือนกันหรือไม่ ขณะนี้ส.ว.ทุกคน ทุกกลุ่มเห็นตรงกันไม่เห็นด้วยกับการแตะต้องมาตรา112  ไม่ว่าจะยกเลิกหรือแก้ไข ห้ามทำเด็ดขาด กฎหมายเดิมดีอยู่แล้ว ถ้าพรรคก้าวไกลประกาศชัดเจนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมาตรา112 เชื่อว่า เสียงส.ว.พร้อมยกมือให้นายพิธาเต็มสภา จึงต้องรอดูเอ็มโอยูฝ่ายพรรคก้าวไกลในวันที่22 พ.ค. จะมีความชัดเจนเรื่องมาตรา112อย่างไร

 

นายทรงเดช กล่าวว่า ส่วนที่ส.ว.สาย2ลุง ประเมินว่า จะมีส.ว.ลงมติเห็นชอบนายพิธาเป็นนายกฯประมาณ20เสียงนั้น ส่วนตัวยังเชื่อว่ามีเกิน 20เสียง แต่จะไปถึง 60กว่าเสียงตามจำนวนที่ยังขาดอยู่ในการโหวตนายกฯหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการประสานงาน จะต้องมาคุยแบบมิตรไมตรี เหมือนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง ไม่ใช่มาด่าตลอดใครจะเลือกให้ยังมีเวลาอีกยาวไกลกว่าจะโหวตเลือกนายกฯ ยังมีเวลาทำความเข้าใจกันได้ 

 

นายทรงเดช กล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวแกนนำ ส.ว.สาย 2 ลุง จะให้ส.ว.โหวตงดออกเสียงนายพิธาเป็นนายกฯ ก็ได้ยินมาเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าส.ว.จะทำตามหรือไม่ ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากพรรคก้าวไกลแสดงความชัดเจนไม่แตะต้องมาตรา112 อาจมีเสียงส.ว.เห็นชอบเกิน 60 กว่าเสียง แต่ถ้าไม่มีความชัดเจนก็ไม่มีทางได้เสียงถึงแน่นอน

 

“ฝากบอกพรรคก้าวไกล ต้องพูดให้ชัดเจน ยกเลิกความคิดแก้ไขมาตรา112 อย่าอ้ำๆอึ้งๆ ตอบไม่ชัดเจนจะแก้ไขโดยการลดโทษมาตรา 112 ก็ไม่ได้ ห้ามแตะต้องมาตรา 112 แม้แต่นิดเดียว ถ้าทำได้ ส.ว.ก็พร้อมให้ความเห็นชอบนายพิธา แต่ถ้าไม่ยกเลิกเรื่องนี้ก็เป็นสายล่อฟ้า” นายทรงเดชกล่าว