ตลาดหุ้นไทยปิดช่วงเช้าวันนี้(19 พ.ค.)ที่ 1,520.63 จุด ลดลง 6.06 จุด (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 24,127 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีแกว่งตัวลง โดยทำระดับต่ำสุด 1,514.07 จุด และสูงสุด 1,530.47 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับลงจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนใหญ่มีความเสี่ยงที่จะต้องรอความชัดเจนของ MOU รัฐบาลชุดใหม่ ทำให้นักลงทุนมีความกังวลและขายปิดความเสี่ยงออกมา รวมถึงหุ้นกลุ่มแบงก์เจอแรงขายคาดว่าจะมาจากนักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยภายนอกยังกดดันด้วยประเด็นทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐที่มีโอกาสปรับขึ้นอีก 0.25% ในการประชุมกลางเดือน มิ.ย.นี้ ส่งผลให้เงินทุนไหลออก และทิศทางต่างชาติยังเป็นฝั่งขายสุทธิต่อเนื่อง ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
โดยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายคาดยังแกว่งแดนลบต่อเนื่อง ระหว่างรอความชัดเจนจากปัจจัยทางการเมืองว่าจะมีความเป็นไปของการโหวตให้นายกฯจากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จหรือไม่ รวมถึงจับตา MOU ของฝั่งรัฐบาลใหม่ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ โดยให้แนวต้าน 1,530 จุด แนวรับ 1,510 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,131.24 ล้านบาท ปิดที่ 28.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,004.53 ล้านบาท ปิดที่ 88.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 999.83 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 783.03 ล้านบาท ปิดที่ 47.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 762.25 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท ลดลง 0.50 บาท