สาวเกษตรกรบุรีรัมย์สุดช้ำโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกมีส่วนเกี่ยวข้องคดีฟอกเงินหลงเชื่อสูญที่เก็บสะสมจากการเลี้ยงควายขายเกือบแสน เผยหลงเชื่อเพราะเขาข่มขู่จะดำเนินคดีต้องติดคุกหากไม่โอนเงินไปให้ตรวจสอบทำให้กลับ เคยเห็นในข่าวแต่ไม่คิดจะโดนกับตัวเอง
วันนี้ (18 พ.ค.) แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังอาละวาดต่อเนื่อง ล่าสุด น.ส.จินตนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ชาวบ้านตำบลสะเดา อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีอาชีพทำนาและเลี้ยงควาย ถูกหลอกมีส่วนเกี่ยวข้องขบวนการฟอกเงิน ต้องโอนเงินไปให้ตรวจสอบไม่อย่างนั้นจะถูกดำเนินคดี หลงเชื่อสูญเงินร่วมแสนบาท จึงได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง
นางสาวจินตนา ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.30 น. ตนได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนหนึ่ง อ้างว่าเป็นพนักงานธนาคารแจ้งว่ามีคนอ้างเอาชื่อตนไปเปิดบัญชี และมีการนำบัตรเครดิตไปซื้อคอมพิวเตอร์ Notebook 2 เครื่อง ตนก็ตกใจเพราะผู้หญิงคนดังกล่าวบอกว่าจะต้องส่งเรื่องไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ
ต่อมาในวันเดียวกันช่วงเวลา 13.58 น. มีผู้ชายซึ่ง อ้างว่า เป็นตำรวจจาก สภ.เมืองบุรีรัมย์ โทรฯ เข้ามาหาตนเองอีกบอกว่าตนมีชื่อเข้าไปมีส่วนเกี่ยวกับการกระทำความผิดคดีฟอกเงิน จากนั้นเขาก็ให้คุยในไลน์ และส่งเอกสารตราครุฑของทางราชการ พร้อมรูปถ่ายที่หลอกว่าเป็นแก๊งที่เคยถูกจับกุมมาให้ดู เพื่อให้ตายใจและเชื่อว่ามีชื่อเกี่ยวกับการกระทำผิดจริง
ทั้งบอกว่า จะขอตรวจสอบทรัพย์สินโดยการให้ตนโอนเงินไปให้ตรวจสอบที่กองปราบปราบ เกี่ยวกับคดีฟอกเงิน เขายังบอกอีกว่าหากไม่รีบดำเนินการตรวจสอบ จะมีความผิดถูกดำเนินการหรือติดคุกครอบครัวพ่อแม่ก็จะเดือดร้อนไปด้วย ตนกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีจึงหลงเชื่อทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง
โดยครั้งแรกได้โอนผ่านธนาคารจำนวน 60,000 บาท ครั้งที่สองโอนผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสอีก 29,000 บาท รวมเป็นเงิน 89,000 บาท จากนั้นผู้ชายที่อ้างเป็นตำรวจก็พยายามโทรฯ มาถามว่า ตนมีทรัพย์สินอะไรอีกบ้าง ตนบอกว่ามีอาชีพเลี้ยงควาย มีควาย มีบ้าน มีทองคำ และมีที่ดิน เขาบอกให้เอาไปขาย แล้วให้โอนเงินไปตรวจสอบอีก
ตนจึงเริ่มเอะใจว่ามันแปลกๆ แต่กว่าจะรู้ว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์และถูกหลอกก็สูญเงินไป 89,000 บาทแล้ว ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ตนเองเก็บสะสมจากการเลี้ยงควายขาย เสียใจมาก ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวมาดำเนินคดี และอยากจะเตือนภัยคนอื่นด้วยจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินเหมือนกับตนเองอีก