วันที่ 18 พ.ค.66  นายธีรัจชัย พันธุมาศ ว่าที่ ส.ส.กทม. และคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีพรรคได้ ส.ส.มาอันดับหนึ่งกำลังเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล 313 เสียง แต่อาจมีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไม่ร่วมโหวตสนับสนุนให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลเป็นนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องดังกล่าวก็อยู่ที่ ส.ว.จะกล้าโหวตสวนกระแสอำนาจประชาชนหรือไม่ หากเขากล้าหรือคิดจะทำให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย ด้วยการทำให้ตั้งนายกฯ ให้ได้ก่อนมันก็จะเกิดความเสื่อม ซึ่งหากเขากล้าปะทะตรงนี้ ความเสื่อมดังกล่าวจะเสื่อมไปถึงระดับเชิงโครงสร้าง คือโครงสร้างการเมืองแบบเดิม มันจะถูกทำลายความชอบธรรมไปหมด เขาก็จะเสี่ยง ที่ยืนเขาจะไม่มี ที่จะทำให้เป็นตัวเร่งให้เขาหมดสภาพโดยเร็ว เพราะสภาพตอนนี้คือยืนอยู่ได้ แต่ยืนอยู่ในสภาพเหมือนถดถอย เพราะยึดอำนาจมา แล้วก็จัดวางอำนาจกันมา แต่ความชอบธรรมมันไม่มี มันเหมือนกับว่ามีมีดแต่ไม่คม เหมือนลูกโป่งคือมันไม่แข็งแรง มันไม่หนักแน่น ถ้าเขาจะทำแบบนั้น จะทำให้ระบบโครงสร้างของฝ่ายอนุรักษ์นิยมในประเทศไทยหมดที่ยืนเร็วขึ้น จะหมดสภาพเร็วขึ้น

“หากเขาจะใช้วิธีงดออกเสียง ยังไงมันก็ทำให้ถดถอย ความชอบธรรมเขาก็จะหมดไปอีก แต่รายจ่ายมันจะมากหรือน้อยก็อยู่ที่ดีกรีที่เขาทำ ซึ่งก็คือเขาก็จะพยายามทำให้เราทำไม่ได้ (ตั้งรัฐบาล) จนเกิดปัญหาต่างๆ ก็จะกลายเป็นว่าเขาจะยิ่งทำลายฝ่ายอนุรักษ์นิยมลงไปเรื่อยๆ ในอดีตเขาอาจเคยมีต้นทุนอยู่บ้าง แต่ทุนของตัวเองก็จะเริ่มหดหาย จนจะล้มละลายไปในที่สุด” นายธีรัจชัย กล่าว

เมื่อถามว่า หากสุดท้ายจะมีความพยายามสกัดพรรคก้าวไกล สกัดนายพิธาไม่ให้เป็นนายกฯ จะเป็นอย่างไรหรือไม่ นายธีรัจชัย กล่าวว่า มันอยู่ที่ว่าสกัดแบบไหน ถ้าสกัดแบบที่ว่าไร้ความชอบธรรมเลย มันก็อาจเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นมาก็ได้ แต่หากว่าสกัดแบบทำแบบเนียนๆ ก็ว่ากันมา แต่เชื่อว่าเราจะต้องไป เพราะการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อำนาจสูงสุดต้องอยู่ที่ประชาชน ไม่ใช่อำนาจสูงสุดอยู่ที่แค่คนที่คุมอำนาจบางส่วน แล้วก็มาเล่นเกมการเมืองเพื่อสกัดไม่ให้อำนาจสูงสุด นี่คืออำนาจประชาชนออกมาเปล่งประกาย ที่ประชาชนได้เลือกมาแล้วไปใช้ไปทำอะไร ซึ่งคนที่คิดจะทำแบบนี้ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม หรือฝ่ายจารีตนิยมที่คิดจะทำแบบนี้ ก็จะเสียต้นทุนมาก จะจบเร็วขึ้น แต่ว่าตอนนี้ที่ยืน มันก็ถดถอยไปเรื่อยๆ แล้ว จะมาใช้อำนาจปืนยึด ใช้กฎหมายยึด ใช้กลไกรัฐที่จัดตั้งคนไว้มาทำลาย แบบนี้เป็นเรื่องที่โบราณ คนเขารู้กันแล้ว ถ้ายังใช้ซ้ำใช้ซาก มันก็จะทำให้คนนเหล่านี้หมดเร็ว เหมือนกับแบตเตอรี่ที่เขาใช้ พลังที่เขามีมันจะถดถอยไป ยิ่งใช้มาก ก็ยิ่งเปลือง ก็ขอให้คิดดีๆ คนที่คิดจะทำ

เมื่อถามว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกล หาเสียงไว้เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการออกกฎหมายนิรโทษกรรมคดีชุมนุมทางการเมือง ยืนยันว่าหลังเปิดสภา พรรคก้าวไกลจะทำได้ภายในกรอบเวลาที่พรรคหาเสียงไว้ใช่หรือไม่ นายธีรัจชัย กล่าวว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลประกาศไว้ เราต้องเอามาทำ แต่ว่ามันจะถูกขวางอย่างไรก็ต้องมาว่ากันอีกทีหนึ่ง แต่สิ่งที่พรรคประกาศไว้อย่างไร ก็ต้องเป็นแบบนั้น และก็อยู่ที่ว่าการตั้งรัฐบาลจะมีการต่อรองกันอย่างไรบ้าง อันนั้นคือด่านแรก แต่เจตจำนงของเรา คือต้องทำตามนโยบายทุกอย่างที่เราได้ทำสัญญาประชาคมไว้