จีเอเบิล (GABLE) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/ 2566 ยังคงความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 18% เป็น 25 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากการเติบโตของของรายได้จากกลุ่มธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระดับองค์กร (Digital Transformation) และรายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม ซึ่งตัวเลขการเติบโตของกำไรและรายได้ดังกล่าว สะท้อนถึงความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน สอดคล้องกับกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นธุรกิจที่มีอัตรากำไรที่สูง
ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลงานเป็นที่น่าพอใจ โดยผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ไตรมาส 1/2566 มีรายได้จากการขายและบริการ 1,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการเติบโตของของรายได้จากกลุ่มธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระดับองค์กร (Digital Transformation) และรายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม อีกทั้งมีกำไรขั้นต้น 220 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับร้อยละ 19.4 เพิ่มจากร้อยละ 16.5 ในไตรมาสแรกของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ที่ต้องการมุ่งเน้นโซลูชั่นที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากไตรมาสแรกปีก่อน
สำหรับไตรมาส 1/2566 กลุ่มบริษัทมีอัตราส่วนรายได้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง (Recurring Income) อยู่ในระดับร้อยละ 51.3 ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2566 กลุ่มบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 3,700 ล้านบาท รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต กลุ่มบริษัทประสบความสำเร็จในการเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มบริษัทฯ มีแผนขยายการลงทุนเพื่อรองรับโอกาสในการเติบโต บรรลุสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทย
โดยวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ จีเอเบิลเตรียมนำไปใช้เพื่อลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพในการเติบโตที่สูงเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทในระยะยาว รวมทั้งใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงินของกลุ่มบริษัท เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินงานจากความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง และการมีวินัยทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ ส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วนที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน ในระดับ 0.56 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ รองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัทในการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพในการเติบโตที่สูงเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ
ทั้งนี้ จีเอเบิลเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล มุ่งเน้นกลุ่มโซลูชั่นระดับองค์กร (Enterprise Solution and Services) ที่ครอบคลุมเทคโนโลยีที่สำคัญในโลกยุคดิจิทัล ด้วยจุดเด่น การนำเสนอโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลที่ครบวงจรในหลากหลายอุตสาหกรรม ตลอดจน ความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและเจ้าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลก นอกจากนี้ การมีรายได้จากการให้บริการที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในสัดส่วนที่สูง (Recurring Income) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการให้บริการโซลูชั่นที่ติดตั้งใหม่ในแต่ละปี
“จีเอเบิล เป็นเจ้าของเทคโนโลยี พัฒนาซอฟต์แวร์เป็นของตนเอง (Software Platform) ซึ่งมีการเติบโตในระดับสูง สามารถสร้างอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 32% (ในระหว่างปี 2563-2565) และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการสร้างความแตกต่างทางการแข่งขันของกลุ่มบริษัทฯ ที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยกลุ่มซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม ถือเป็น Growth Engine ที่พร้อมสำหรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มด้านการบริหารจัดการข้อมูล Big Data ของ Blendata แพลตฟอร์มด้านการตลาดดิจิทัลของ InsightEra หรือว่าจะเป็น แพลตฟอร์มด้านการบริหารพื้นที่เช่าของ MVerge ที่อยู่ในทิศทางที่มีความต้องการของตลาด และมีการเติบโตสูง มาจากประสบการณ์ตรงที่ได้จากการทำโครงการให้กับลูกค้า ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มของเราตอบโจทย์ลูกค้าได้จริง และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่จะเป็น New Growth Engine ที่สร้างรายได้ให้กับจีเอเบิลในอนาคต”ดร.ชัยยุทธกล่าว