SABINA เผยผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2566 เติบโตทุกช่องทางการขาย ส่งผลให้รายได้ 3 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคมถึงมีนาคม) อยู่ที่ 874.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2565 คิดเป็น 150.0 ล้านบาท หรือ 20.7% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 117.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน 15.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.2% เผยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากแคมเปญ “ซาบีน่า บราเลส” (SABINA BRALESS) ที่ประสบความสำเร็จเกินคาด จากการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ที่สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าจนทำให้ยอดขายถล่มทลายในทุกคอลเลคชั่น รวมถึงการวางแผนทำตลาดที่เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างทั่วถึง ระบุเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการลงทุนใน Moda ฟิลิปปินส์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม มั่นใจเป้าหมายเติบโตปีนี้ที่ 15% เป็นไปได้แน่นอน พร้อมเดินหน้าทำลายสถิติรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ของบริษัทฯ เติบโตอย่างน่าพอใจ ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ โดยรายได้ใน 3 ช่องทางขายหลักเติบโตในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางค้าปลีก (Retail) ผ่านเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าและซาบีน่า ช็อป ที่เติบโต 11.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ช่องทางออนไลน์ (Non Store Retailing : NSR) เติบโต 27.1% และช่องทางรับจ้างผลิต (OEM) เติบโต 59.6% โดยเฉพาะการขายในช่องทางค้าปลีก ที่เติบโตในทุกภูมิภาคของประเทศ ไม่ได้จำกัดเฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้น สะท้อนการฟื้นตัวของกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างชัดเจน ขณะที่อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ ทั้งอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 49.4% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 13.4% ตอกย้ำความสามารถในการทำกำไร รวมถึงการควบคุมต้นทุนของบริษัทฯ ในไตรมาสแรกของปีนี้ได้เป็นอย่างดี
“ไตรมาสแรกปีนี้ เราได้รับปัจจัยสนับสนุนหลายอย่างทั้งการออกแคมเปญ “ซาบีน่า บราเลส” (SABINA BRALESS) ที่มาพร้อมนวัตกรรม “สบายเหมือนไม่ได้ใส่บรา” ที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน รวมถึงแผนการตลาดที่สามารถสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง ทำให้ “ซาบีน่า บราเลส” กลายเป็นสินค้าสุดปังที่สร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะเดียวกัน เรายังได้รับประโยชน์จากเรื่องการอ่อนค่าของค่าเงินบาทในช่วงต้นปี ที่เป็นปัจจัยบวกสนับสนุนรายได้จากช่องทาง OEM เนื่องจากเป็นช่วงที่เรากำลังส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าในต่างประเทศพอดี”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าวด้วยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน ซึ่งจะทำให้รายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์จากที่เคยทำไว้ในปี 2562 ที่ระดับ 3,295 ล้านบาท ซึ่งเมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก ประกอบกับการคาดการณ์ว่า ทิศทางเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปีนี้จะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก ทั้งการอุปโภคบริโภคในประเทศ การท่องเที่ยวและการส่งออก ทำให้บริษัทมั่นใจว่า จะสามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
สำหรับความคืบหน้าในการลงทุนในบริษัท Moda SBN ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีก และเป็นตัวแทนจำหน่าย (Distributor) สินค้าแบรนด์ “ซาบีน่า” ในประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากบริษัท ซาบีน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SABINA บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อหุ้น “Moda” ในสัดส่วน 77.33% ของทุนจดทะเบียนนั้น ล่าสุด SABINA ได้ทยอยรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการถือหุ้น “Moda” แล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของไตรมาสแรก โดย SABINA จะเริ่มรับรู้รายได้แบบเต็มไตรมาสได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยปัจจุบัน “Moda” มียอดขายประมาณ 50-60 ล้านบาท และคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 200 ล้านบาทได้ภายใน 5 ปี