ทันสถานการณ์โลก/Benedict

"Daily Inquirer" ของฟิลิปปินส์และกาตาร์อัลจาซีรารายงานว่าประธานาธิบดีมาร์กอสของฟิลิปปินส์เดินทางเยือนวอชิงตันตั้งแต่วันที่ 30 เมษายนถึง 4 พฤษภาคมและจัดการเจรจากับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ

ในขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงในฟิลิปปินส์ได้จัดการชุมนุมประท้วงที่หน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในฟิลิปปินส์ ผู้ประท้วงเหล่านี้เรียกร้องให้ "สหรัฐฯ ถอนทหารออกจากฟิลิปปินส์ทันที" ประท้วงที่ฟิลิปปินส์เปิดฐานทัพในฟิลิปปินส์ให้กองทัพสหรัฐฯ มากขึ้น และกลายเป็นข้าราชบริพารของสหรัฐฯ ในภูมิภาค

อัลจาซีรารายงานว่า นายเรเยส หัวหน้าพรรคการเมือง New Patriotic Alliance ของฟิลิปปินส์ กล่าวตำหนิก่อนเริ่มการเดินขบวนว่า สหรัฐฯ ย้ำว่าฟิลิปปินส์เป็น "ด่านหน้าทางทหาร" ในเอเชีย ซึ่งกลายเป็นประเด็นใหม่ของการชุมนุมในวันแรงงาน . เขาสัญญาว่าจะจัดการชุมนุมประท้วงที่หน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในฟิลิปปินส์ และมาร์กอส ซึ่งกำลังเยือนสหรัฐฯ ก็จะได้รับการ "ต้อนรับ" จากการประท้วงของชาวฟิลิปปินส์ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นอกจากนี้ เขายังกล่าวด้วยว่า ผู้นำสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์จะประกาศกฎทวิภาคีใหม่เกี่ยวกับการปรากฏตัวของกองทัพสหรัฐฯ ในฟิลิปปินส์

"Daily Inquirer" ระบุว่า องค์กรแรงงานฟิลิปปินส์ "Kilusang Mayo Uno" ยังวิจารณ์มาร์กอสในวันที่ 1 พ.ค. ที่เดินทางไปสหรัฐฯ แทนที่จะไปอยู่กับคนงานในวันแรงงาน  Elmer Raab หัวหน้ากลุ่มกล่าวว่า May Day ควรเป็นเวลาสำหรับการพูดคุยแบบจับเข่าคุยกับคนงาน “แต่เขาเลือกที่จะขึ้นเครื่องบินและทิ้งพวกเราไว้ข้างหลัง” และเรียกผู้ประท้วงชาวฟิลิปปินส์หลายร้อยคนที่รวมตัวกันด้านนอก สถานทูตสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. เพื่อประท้วงข้อตกลงที่บรรลุโดยรัฐบาลสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ในการเปิดฐานทัพเพิ่มเติมให้กับกองทัพสหรัฐฯ

ผู้ประท้วงเหล่านี้กล่าวว่าสิ่งที่ฟิลิปปินส์ต้องการคือการลงทุนและการก่อสร้าง ไม่ใช่อาวุธ และสิ่งที่ต้องการคือสันติภาพและการพัฒนา ไม่ใช่สงคราม