ปากกาขนนก / สกุล บุณยทัต
“การยึดมั่นถือมั่นในตัวตนอย่างสุดโต่ง จนเกาะกินเป็นรากสนิม ที่ฝังแน่นกับชีวิต..ถือเป็นโชคร้ายอย่างถึงที่สุดที่จริตแห่งชีวิต ต้องแบกรับ และตกเป็นเบี้ยล่าง ของความผิดบาปอันเป็นอคตินี้อย่างสิ้นท่า นั่นคือเบ้าหลอมของการก่อเกิด"อัตตา" ทัศนะคติอันเป็นผลลบต่อชีวิต...ที่ไม่ควรค่าต่อการยกย่องนับถือ...มันคือ"แสงมืดดับ"แห่งปัญญาญาณ...ที่มนุษย์เราทุกคนสมควร จะต้องเลี่ยงพ้น..แต่ในทางตรงข้าม..ณ ปัจจุบัน อัตตาและภาวะวิถีของมัน..กลับงอกงามในใจคน มากขึ้นทุกขณะ..เนื่องเพราะ "โลกวันนี้" ไม่ได้สอนให้คนเรากลมเกลียวและต้องเผื่อแผ่แก่กันและกัน..ตรงกันข้ามมิติแห่งการเรียนและความคิดเบ็ดเสร็จแทบทุกความคิด กลับสอนสั่งต่อเราอย่างซ้ำๆให้กอบโกยทุกสิ่งและพะนออัตตาอย่างจริงจังและเอาเป็นเอาตาย โดยไม่ยอมตระหนักคิดเลยว่า..นั่นคือความเลวร้ายแสนสาหัส..เท่าที่กมลสันดานของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม..จะพึงมี..มันคืออัปลักษณ์ในทางจิตวิญญาณ ที่ได้บังเกิดขึ้นแล้ว ต่อหน้าต่อตามนุษย์ของวันนี้..อย่างเสื่อมสลายและสิ้นค่า..แท้จริง!".
นี่คือผัสสะ..ที่ได้รับจากการใคร่ครวญลึกซึ้ง..หลังจากได้อ่านหนังสือที่กระตุ้นเตือนจิตปัญญา..ให้ระเเวดระวังถึงภัยใกล้ตัว ซึ่งหมายถึงตัวตนที่ซัดส่ายและไม่ยอมเป็นมิตรกับความดีงาม..
"ตัวคุณคือศัตรู"(EGO IS THE ENEMY)หนังสือที่สอนจริตและปลุกนัยที่ควรจะเป็นของผู้คน โดยไม่ให้จมปลักและหลงใหลอยู่กับความไม่เที่ยงแท้...ฝักฝ่และขังตัวเองอยู่กับคอกขังแห่งมายาจริตที่กดต่ำความเป็นมิตรไมตรี จนเหลือเพียงแค่เศษขยะกองมหึมาที่ทั้งบ่อนทำลาย..และ ชำเรามโนสำนึกของตัวตนอย่างผิดบาปและชั่วร้าย..
"เมื่อศัตรูร้ายกาจที่สุดซ่อนในตัวคุณ มันทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง..มันทำลายหน้าที่การงานของคนหนุ่มสาวอนาคตไกล มันทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ล่มสลาย เพียงชั่วข้ามคืน...มันทำให้คนที่หวังดีต่อกันมากที่สุด..กลับกลายเป็นศัตรูภายในพริบตา..และ ขณะเดียวกัน มันก็ผลักดันก่อให้เกิดความมุ่งมั่น..ความทะเยอทะยาน ความคิดสร้างสรรค์ ที่ขับเคลื่อนความก้าวหน้าของมนุษยชาติ.."
ทั้้งหมดทั้งมวลแห่งความคิดทั้งหมดนี้ จึงคือ..สิ่งลึกลับที่มีความสำคัญต่อมนุษย์มากที่สุด แต่มนุษย์เอง กลับเข้าใจ มันได้น้อยที่สุด..
"ไรอัน ฮอลิเดย์" (Ryan Holiday)...เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาด้วยประสบการณ์แห่งการหยั่งรู้อันหยั่งลึก...นี่คือ หนังสือที่เขาเขียนขึ้นเป็นเล่มที่..4/เมื่อเดือนมิถุนายน ปีค.ศ.2016...สาระโดยรวมเป็นการกระตุ้นเร้าและออกแบบชีวิตในเชิงจิตวิทยาสมัยใหม่ อันมีผลสัมฤทธิ์ต่อการใช้ชีวิตในโลกของวันนี้ อย่างหลักแหลมและเข้าใจ
"เราต้องเรียนรู้ที่จะคิดใหญ่/แต่ต้องใช้ชีวิตอย่างหลักแหลมและถ่อมตัว การควบคุมตัวเองนั้น เป็นทักษะที่ยาก แต่สำคัญยิ่ง ยิ่งอีโก้ของเราใหญ่โตมโหราฬขึ้นเท่าไร..เราก็ยิ่งจะล้มแรงขึ้นเท่านั้น..เหตุนี้ เราจึงควรเรียนรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า..
อีโก้...ทำให้เวลาแห่งความสำเร็จของเราสั้นลง/เนื่องเพราะ....คนเรานั้นเล็กจ้อย เราต่างเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลอันยิ่งใหญ่..คนเราจึงไม่ควรหลงลืมว่าสิ่งใดยิ่งใหญ่กว่า..และดำรงอยู่บนโลกนี้มา..เนิ่นนานกว่าเรา..
ภาพรวมทางวิธีคิดที่หนังสือเล่มนี้แสดงต่อเราอย่างกลมกลืนและเปิดเผยก็คือว่า ."จงเป็นนักเรียนที่จะเรียนรู้ในทุกไปขณะแห่งย่างก้าวของชีวิต/ลองพูดและพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าออกมาจากตัวตนด้านในพร้อมกับการขยายไปสู่..การที่จะต้องเป็นหรือจะต้องทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง..เวลา.จะเป็นหรือจะตายนั่นว่าต้องไม่พยายามเล่านิทานให้ตัวเองฟังนี้คือสิ่งที่เราสมควรต้องรับรู้...เพราะมันเป็นช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ ซึ่งชีวิตจำเป็นต้องตั้งมั่นและเอาจริงเอาจังต่อมันเสมอ..
บริบทเเห่งคำสอนของหนังสือเล่มนี้คือความตรงไปตรงมา เป็นรูปรอยแห่งวิถีปฏิบัติทั้งในยามที่ชีวิตสุขสำเร็จ หรือกำลังติดตรึงอยู่กับความล้มเหลว เราจะพินิจเป็นสัญชาตญาณอันแท้จริงของตนเองที่พัวพันอยู่กับตัวอย่างเข้าใจและจัดการกับศัตรูตัวร้ายคือ"อัตตาแห่งอัตตา"ของตัวเองได้...ในที่สุด..
ที่สุดแล้ว "อัตตา" คืออะไรกันแน่ที่เราต้องวิเคราะห์และจดจำ..มันคือความคิดที่ถือว่า..มีตัว มีตน ซึ่งพุทธศาสนา ให้หลักคิดว่า..มันคือขนมหวานที่มีไส้ตรงกลางเป็นยาพิษ..มันไม่มีอยู่จริง แต่กลับสร้างความหลงใหลให้มนุษย์ทุกๆคน ได้ยึดติดและ บ้าคลั่งกับมายาคติของมันอยู่เสมอ จนจริตที่ดีงาม.. ที่ไม่ปรุงแต่งของมวลมนุษย์ ต้องเสื่อมสลายไป..
"จงประสบความสำเร็จด้วยการไร้อีโก้...หากคุณเริ่มเชื่อในความหลงอันยิ่งใหญ่ของคุณแล้ว..พรสวรรค์อันยิ่งใหญ่ในชีวิตของคุณก็จะจากไป"
นั่นคือสัจจะอันขมขื่น...ที่ชีวิตจักต้องเผชิญอยู่เสมอ..เมื่อคุณ.เฝ้าเอาแต่ใช้" passion "ในชีวิต อย่างไร้การควบคุม...
...สำหรับผม ..สัมผัสสำคัญที่ได้รับจากการเรียนรู้ ความหมายของอีโก้อย่าง มีแง่มุมทั้งดีทั้งหลายของหนังสือเล่มนี้ก็คือ กระบวนการแห่งการเข้าใจเนื้อในของตนเอง มันมิใช่การวิพากษ์อย่างผิวเผิน แต่คือการชำแหละและเจาะลึกถึงสภาวการณ์ที่มนุษย์ต้องเป็นและมีอาการปรากฏออกมาอย่างยากที่จะควบคุมได้..นั่นแสดงถึงว่าหากไม่มีการเรียนรู้ในประเด็นนี้มาก..โลกก็ย่อมจะเต็มไปด้วยการพองโต ของกายร่างแห่งตัวตน ที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจที่จะอยู่ร่วมและผสานสมดุลในด้านของความดีงามกับผู้อื่นเลย..
ความล้มเหลวอันยิ่งใหญ่ในชีวิต...ก็คือการมองว่า..ตนเป็นมากกว่าคนอื่น..
เหตุนี้มนุษย์ทุกคนจึงควรเริ่มต้นชีวิต..ด้วยเป้าหมาย/ จึงควรพูดในสิ่งที่ควรพูด/และต้องลดอัตตาให้น้อยลง ถ้าคิดจะเป็นผู้นำของใครๆ..ไม่ว่าจะเป็นของ ครอบครัว สังคม ตลอดจนโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ก็ตาม..
"เมื่อขจัดอีโก้ทิ้งไป เราจะเหลือเพียงความจริงที่ยิ่งใหญ่คือการถ่อมตัว อันเป็นความจริงที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยความมั่นใจ"
"จารุจรรย์ คงมีสุข"...แปลและให้ความหมายต่อหนังสือเล่มนี้อย่างเต็มไปด้วยแง่มุมของหลักคิด มันทำให้ผู้อ่านได้ย้อนลึกเข้าไปสำรวจถึงความเป็นตัวตนที่แท้..ไม่ว่าจะจริงหรือลวง /กระทั่งการจะน้อมรับหรือปฏิเสธโดยสิ้นเชิง..แต่ทั้งหมดก็คือบทสะท้อนที่คว้านลึกต่อจิตใจที่"ไรอัน ฮอลิเดย์" ได้บันทึกไว้อย่างเต็มไปด้วยความเอกอุ..ทางความคิดแล้ว เพื่อสร้างโอกาสแห่งการอ่านและอ่าน/รวมทั้งการคิดเพื่อคิดที่จะได้บรรลุถึง จิตสำนึกในความเป็นตัวตนที่แท้ในนามของมนุษย์ที่เหลื่อมซ้อนอยู่กับความเป็นชีวิตที่ผนึกเป็นชีวิต..
"เราต้องเรียนรู้ที่จะคิดใหญ่ โดยการต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตให้เล็ก../ทั้งนี้...เพื่อจะเป็น "นายของอีโก้"ให้ได้.."