กรมการค้าภายในแจงกรณีข่าวราคามะละกอผลดิบในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรปรับตัวสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 17-18 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรพึงพอใจ แต่อาจมีผลกระทบต่อผู้บริโภคได้ในระยะต่อไป
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดกำแพงเพชร ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบสถานการณ์สินค้ามะละกอผลดิบ กรณีมีการนำเสนอข่าวราคามะลอกอผลดิบหน้าสวน ในพื้นที่ตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร แหล่งผลิตสำคัญ ปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 17-18 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรพึงพอใจ แต่อาจมีผลกระทบต่อผู้บริโภคได้ในระยะต่อไปได้ หากราคายังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกำแพงเพชร นำโดยพาณิชย์จังหวัดกำแพงเพชร (นายบรมัตถ์พงษ์ พลเยี่ยม) และเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ได้ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบสถานการณ์มะละกอผลดิบกับเกษตรกร พ่อค้าส่ง และผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ พบว่า ราคาที่เกษตรกรขายได้หน้าสวน กิโลกรัมละ 15-17 บาท และราคาขายปลีก ณ ตลาดศูนย์การค้าเมืองกำแพงเพชร กิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในระดับราคาในช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ที่มีราคาขายปลีก กิโลกรัมละ 20-25 บาท สำหรับปริมาณผลผลิตยังออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณลดลงจากช่วงที่ผ่านมาเล็กน้อย เนื่องจากสภาพอากาศร้อน ทำให้มะละกอเติบโตช้า อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝน (มิ.ย.-ก.ค.66) จะมีผลผลิตมะละกอออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจากการติดตามภาวะการค้าในตลาดค้าส่ง-ปลีกขนาดใหญ่ อาทิ ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท จ.ปทุมธานี ตลาดเมืองทองเจริญศรีอุดรธานี ตลาดริมปิง จ.นครสวรรค์ ยังมีมะละกอผลดิบเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยราคาขายส่ง กิโลกรัมละ 19-24 บาท ซึ่งสอดคล้องกันทั้งราคาในแหล่งผลิตต้นทางและตลาดปลายทาง
โดยในการนี้ กรมฯ ได้ขอให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั้งที่เป็นแหล่งผลิตและตลาดปลายทางติดตามสถานการณ์การผลิตการตลาดมะละกอผลดิบและพืชผักอื่นอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมการเชื่อมโยงผลผลิตในกรณีที่ปริมาณผลผลิตมีน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการบริโภค ทำให้ราคามะละกอผลดิบและพืชผักในตลาดบริโภคปลายทางปรับตัวสูงขึ้นผิดปกติ รวมทั้ง ได้ขอให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกำกับดูแลให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด