การท่องเที่ยว'จอร์แดน'รุกตลาดไทยร่วมมือคู่ค้าธุรกิจทั้งใน-ต่างประเทศ

เมื่อจอร์แดน ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางที่มากด้วยเรื่องเล่าและอารยธรรมโบราณ จนทำให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่สำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจะต้องไม่พลาด ซึ่งหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จึงทำให้การท่องเที่ยวจอร์แดน และสายการบินโรแยลจอร์แดนเนี่ยน พร้อมด้วยพันธมิตรในเมืองไทย อย่าง “เคทีซี” หรือบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จับมือกันกระตุ้นการเดินทางให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ชู 2 กลยุทธ์ดึงนักเดินทางเข้าประเทศ

ทั้งนี้ นายจัสติน อาบู อันซา ผู้ช่วยผู้อำนวยการการตลาด  การท่องเที่ยวจอร์แดน กล่าวว่า นักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวจอร์แดนด้วยตัวเองในปี 2562 มีประมาณ 5,883 คน จนมาเมื่อปี 2565 หลังจากโควิดคลี่คลายมีจำนวน 1,647 คน ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าไว้ประมาณ 10,000 คนทั้งนี้พติกรรมของคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวในจอร์แดน ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 5-7 วัน

ด้าน นายคารีม มาคลุฟ  ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินโรแยลจอร์แดนเนี่ยน กล่าวว่า  สายการบิน กำลังปรับโครงสร้าง คือ 2 กลยุทธ์ใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ 1.การท่องเที่ยว คือ การส่งเสริมให้คนเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศจอร์แดนได้มากขึ้น และ2.พัฒนาอาร์มาน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจอร์แดน ให้เป็นศุนย์กลางของภูมิภาคตะวันออกกลาง หรือเป็น เกตเวย์หลักของการท่องเที่ยวในภูมิภาคดังกล่าว

สำหรับสายการบินดังกล่าวเเป็นบูติกแอร์ไลน์ เป็นสายการบินร่วมสมัย ที่ผสมผสานวัฒนธรรมของอารบิก กับความทันสมัย เนื่องจากมีคู่แข่งหลายๆ เจ้าในภูมิภาคดังกล่าว จึงทำให้สายการบินโรแยลจอร์แดนเนี่ยน ต้องทำประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย และสื่อต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น โดยมีโหลดแฟกเตอร์ประมาณ 86 %  

โดยมีเส้นทางบินจากกรุงอัมมาน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศจอร์แดนและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดนมีเที่ยวบินมาประเทศไทยวันละ 2 เที่ยวบิน เพื่อจะนำผู้โดยสารไปยังเมืองต่างๆ ภายในประเทศ และเป็นการเชื่อมโยงไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วภูมิภาคยุโรป เช่น ลอนดอน แฟรงเฟิร์ต รวมถึงประเทศใกล้เคียง อย่างอิสราเอล และอียิปต์ เป็นต้น

นำเสนอท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

ทั้งนี้ นายคารีม กล่าวต่อว่า ในส่วนของกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะพัฒนากรุงอัมมาน ให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นเกตเวย์หลักของการท่องเที่ยวจะทำการกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยใช้กรุงอัมมานเป็นศูนย์กลางการเดินทาง เชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมภายในประเทศ และประเทศอื่นๆ

โดยตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางในประเทศไปยังเมืองต่างๆ ซึ่งได้รับความนิยม เช่น นครเพตรา หรือทะเลเดดซี หรือ ทะเลมรณะ เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่เป็นชายแดนของประเทศจอร์แดนทางตะวันออก และเวสต์แบงก์กับอิสราเอลทางตะวันตก ประมาณ 70% ส่วนอีก 30% จะเป็นการใช้กรุงอัมมาน เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศอื่นๆ

ซึ่งผู้ที่สนใจเดินทางไปประเทศจอร์แดนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 - 31 ธันวาคม 2566 ราคาไม่รวมตั๋วโดยสาร  เลือกวันเดินทางได้ด้วยตัวเอง ออกเดินทางได้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ติดต่อสอบถามโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวจอร์แดน หรือจองได้ที่ KTC World Travel Service  หรือแชท https://ktc.cards/KWT-addline-FB ตั้งแต่วันนี้  -วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่มีวัตถุประสงค์เดินทางเข้าประเทศจอร์แดนเพื่อการท่องเที่ยว สามารถขอวีซ่าแบบ Visa On Arrival (VOA) ที่สนามบิน Queen Alia International Air