วันนี้ (10 พ.ค.2566) กองทุนหมู่บ้านสนามชัย หมู่ 9 ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เป็นประธานเปิดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง” ภายใต้โครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยมี นางสาวทรงลักษณ์ วรภัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมงาน
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้รัฐบาลส่งเสริมการกระจายความมั่งคั่งในระบบเศรษฐกิจระหว่างกันอย่างเป็นระบบ โดยการส่งเสริมให้เศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจชุมชน เศรษฐกิจครัวเรือนมีความเข้มแข็งส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศมีความแข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ เช่นเดียวกับโครงการ "โคล้านครอบครัว" ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ถือได้ว่าเป็นโครงการที่ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริงได้มีการทดลอง ศึกษา และค้นคว้า ลงมือทำจริง และมีผลสำเร็จเป็นรูปธรรม จากการทดลองนำร่องโครงการโคล้านครอบครัวในพื้นที่ จ.สุโขทัย และ จ.ชัยนาท รวมถึงพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ พบว่าประชาชนมีรายได้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากการเลี้ยงโค ที่สำคัญหลายครัวเรือนได้ยกระดับตนเองสู่การเป็นผู้ประกอบธุรกิจในชุมชน มีอาชีพที่มั่งคง มีรายได้หมุนเวียนทั้งในครัวเรือนและชุมชน อีกทั้งเป็นมรดกตกทอดสู่รุ่นลูกหลานได้โดยไม่ต้องส่งลูกหลานไปทำงานต่างถิ่น สามารถสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างความร่ำรวยในชุมชนได้
"โค เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ให้ประโยชน์แก่มนุษย์อย่างกว้างขวาง ทั้งแรงงาน เนื้อ นม หนัง อีกทั้งกระดูกและเลือดยังใช้ทำประโยชน์ได้หลายอย่าง รวมถึงมูลโคยังใช้ทำปุ๋ยอินทรีย์ได้อีกด้วย โคเลี้ยงง่าย คืนทุนได้เร็ว อดทนเลี้ยงเพียง 3 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนที่เป็นกำไรให้ประชาชนได้ ที่สำคัญอาชีพเลี้ยงโคยังต่อยอดสู้อาชีพอื่นๆ ที่สร้างรายได้ สร้างเม็ดเงินได้อย่างไม่สิ้นสุดอีกด้วย เช่น การปลูกหญ้าตลอดถึงพืชตระกูลถั่วจำหน่ายให้พี่น้องเกษตรกรเพื่อใช้เลี้ยงโค การจำหน่ายมูลโคเพื่อทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ โดยโคขับถ่ายมูลสดออกมาปีละ 5,000 - 7,000 กก. ต่อหนึ่งตัว หรืออาจมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของโคแต่ละตัว ส่วนโคเนื้อสามารถขายได้ตลอดเวลา ในช่วงที่ราคาโคตกต่ำก็สามารถที่จะชะลอไว้ก่อนได้ รอให้ราคาโคเหมาะสมแล้วค่อยนำจำหน่าย ถือเป็นข้อได้เปรียบของการเลี้ยงโค เพียงแค่เกษตรกรใส่ใจ เสริมองค์ความรู้ ศึกษาจากคนที่ประสบความสำเร็จจริง มั่นพัฒนาศักยภาพ พัฒนาทักษะ ศึกษาความต้องการของตลาด ให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น"
สำหรับการจัดงาน "สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง" ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดงานครั้งที่ 8 โดยมี กลุ่มเป้าหมายหลัก จากสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ฯ ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ มุกดาหาร, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญเข้าร่วมกิจกรรมอัพเดทองค์ความรู้มากมาย ได้แก่ กิจกรรมเสวนาโดยกองทุนหมู่บ้านต้นแบบ "ทำแล้ว ทำง่าย ทำได้...ไม่ยาก" โดยกองทุนหมู่บ้าน กองทุนหมู่บ้านบ้านสนามชัย หมู่ที่ 9 ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Up Skill เรื่อง“โคล้านครอบครัว” รวมถึงกิจกรรม Business Matching และยังมีนิทรรศการให้ความรู้จาก กทบ. อีกด้วย