บีซีพีจีเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานที่ 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.90 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4/2565 แต่ลดลงร้อยละ 62.5 จากไตรมาสที่ 1/2565 สาเหตุจากปีที่แล้วมีกำไรจากการจำหน่ายโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ที่หยุดขายไฟ เพื่อเชื่อมต่อสายส่งขายไฟฟ้าไปยังเวียดนามซึ่งขณะนี้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว พร้อมขายไฟฟ้าทันทีที่ทางรัฐบาลเวียดนามอนุมัติ ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา (CCGT) เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 1/2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4/2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,057 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.5 มีกำไรสุทธิ 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.90 ปัจจัยหลักจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และการรับรู้การกลับรายการขาดทุน จากการด้อยค่าของสินทรัพย์จำนวน 267 ล้านบาท จากโครงการชิบะ 2 ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากปีที่แล้วมีการประเมินว่าโครงการมีความเสี่ยงที่จะได้รับใบอนุญาตในการก่อสร้างไม่ทันตามกำหนด แต่ในขณะนี้ โครงการดังกล่าวสามารถเริ่มการก่อสร้างและคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ตามแผน
ขณะที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่ 160 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 57.3 ปัจจัยจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป. ลาวลดลง จากการหยุดผลิตไฟฟ้าเพื่อเตรียมขายไฟฟ้าไปยังการไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Vietnam Electricity - EVN) อย่างไรก็ตาม การรับรู้ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศฟิลิปปินส์และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา ช่วยบรรเทาผลกระทบจากการหยุดขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ใน สปป. ลาว บางส่วน
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมลดลงร้อยละ 8.7 กำไรสุทธิลดลงร้อยละ 62.5 และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติลดลงร้อยละ 69.1 เนื่องจากปีที่แล้วมีผลกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ประกอบกับในไตรมาสนี้มีการหยุดขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว เพื่อเชื่อมการขายไฟฟ้าไปยังเวียดนาม ซึ่งสายส่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ได้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อย พร้อมจ่ายไฟฟ้าข้ามพรมแดนจาก สปป.ลาวไปยังเวียดนามได้ทันทีที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเวียดนาม
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา (CCGT) ซึ่งบีซีพีจีได้เข้าไปลงทุนตั้งแต่ต้นปี 2566 เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเป็นจำนวน 36 ล้านบาท และไตรมาส 2/2566 จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาส ขณะที่โครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในใต้หวัน มีความคืบหน้าไปด้วยดี คาดว่าจะได้รับการยืนยันการเชื่อมต่อสายส่งเพื่อขายไฟฟ้าสำหรับโครงการกำลังการผลิต 58 เมกะวัตต์ในเดือนนี้ และเริ่มการก่อสร้างโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง