คณะกรรมการสถานศึกษา ร.ร.บ้านละหานทราย (คุรุราษฎร์บำรุงวิทยา) อ.ละหานรทราย จ.บุรีรัมย์ เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  พิจารณาสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ให้ได้มาตรฐาน หลังผู้รับเหมารายเดิมทำผิดแบบไม่ได้มาตรฐาน จนถูกยกเลิกสัญญาจ้าง ทำให้สูญงบประมาณรัฐและเด็กเสียโอกาสที่จะใช้อาคารเรียนใหม่ลดความแออัด  ขณะ ร.ร.เผยอยู่ระหว่าง สพฐ.พิจารณา

  (9 พ.ค.66)  คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านละหานทราย (คุรุราษฎร์บำรุงวิทยา)  ตำบลละหานทราย  อ.ละหานทราย  จ.บุรีรัมย์  ได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ได้พิจารณาเดินหน้าก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนบ้านละหานทราย(คุรุราษฎร์บำรุงวิทยา) หลังใหม่ให้ได้มาตรฐาน      หลังจากผู้รับเหมารายเดิมทำผิดแบบแปลนไม่ได้มาตรฐาน โดยการเปลี่ยนแปลงฐานรากของอาคารจากการตอกเสาเข็มตามแบบก่อสร้าง  เป็นการทำฐานรากแบบฐานแผ่ทุกเสาแทน ทั้งที่ต้องรับน้ำหนักอาคารถึง 4 ชั้น    

  ที่ผ่านมา ตัวแทนผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานฯ  เคยทำหนังสือร้องเรียนหลายหน่วยงานให้ตรวจสอบ  เพราะเกรงหากปล่อยให้สร้างเสร็จโดยไม่ได้มาตรฐาน แล้วเปิดให้ใช้งานก็จะเสี่ยงอันตรายกับครูและเด็กนักเรียนผู้ใช้อาคารดังกล่าว  แต่ก็ยังเห็นผู้รับเหมาก่อสร้างต่อจนถึงชั้น 3  กระทั่งมาเกิดปัญหาอีกเพราะเสาชั้น 3 หลายต้นมีปูนหลุดร่อน  ซึ่งทางโรงเรียนแจ้งให้ผู้รับเหมาแก้ไขแต่ไม่ดำเนินการ  จึงได้ทำหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาจ้าง  และรายงานให้ทาง สพฐ.รับทราบ  ทำให้อาคารถูกชะลอการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 65 จนถึงปัจจุบัน 

 

  ที่ทางคณะกรรมการสถานศึกษาฯ ออกมาเรียกร้องอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้พิจารณาก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ดังกล่าว  ไม่ว่าจะรูปแบบหรือแนวทางไหนก็ตามแต่ขอให้ได้มาตรฐานและปลอดภัย     เนื่องจากไม่อยากให้สูญเสียงบประมาณรัฐโดยเปล่าประโยชน์  และเด็กต้องเสียโอกาสที่จะใช้อาคารเรียนหลังใหม่เพื่อลดความแออัดด้วย  เพราะโรงเรียนแห่งนี้ มีนักเรียนมากถึง 1,200 คน และครูอีกกว่า 100 คน

  นายชุมพล  หลักชัย  ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ร.ร.บ้านละหานทราย (คุรุราษฎร์บำรุงวิทยา)  กล่าวว่า  การก่อสร้างอาคารเรียนดังกล่าวผิดแบบไม่ได้มาตรฐานมาตั้งแต่แรกแล้ว  แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใดถึงปล่อยให้ผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างมาจนถึงชั้น 3 กระทั่งเกิดปูนร่อนหลายเสา  จนทางโรงเรียนได้ยกเลิกสัญญาจ้าง  ซึ่งก็เห็นด้วยที่ไม่ปล่อยให้ก่อสร้างต่อโดยไม่ได้มาตรฐาน เพราะอาจเกิดอันตรายกับครู และลูกหลานที่เรียนในโรงเรียนดังกล่าวได้  แต่หากเป็นไปได้ก็อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาหาแนวทางก่อสร้างอาคารเรียนดังกล่าวให้ได้มาตรฐานและเกิดความปลอดภัย  เพราะหากปล่อยทิ้งก็จะสูญเสียงบประมาณรัฐ และเด็กเสียโอกาสใช้อาคารเรียนหลังใหม่ด้วย

  ทั้งนี้ จากการสอบถามทางโรงเรียนให้ข้อมูลว่า  ได้แจ้งเรื่องไปยัง สพฐ.ซึ่งเป็นต้นสังกัดรับทราบแล้ว   ก็ขึ้นอยู่กับทาง สพฐ.จะพิจารณาดำเนินการ 

​​​​​​​

  ซึ่งจากข้อมูลทราบว่า การก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ 4 ชั้นดังกล่าว ใช้งบประมาณ 22 ล้านบาท จ่ายทั้งหมด 10 งวด จ่ายไปแล้ว 4 งวดๆ ละ 2 ล้านบาท สิ้นสุดสัญญา ปี 2565 (ต่อสัญญาเนื่องจากสถานการโควิด ถึง 5 มิ.ย.66)  แต่การก่อสร้างชั้น 3 มีปัญหา เนื่องจากเสา 4 ต้นมีปูนร่อนไม่ได้มาตรฐานตามแบบ  โดยตามแบบ 240 กก/ตร.ซม. แต่โยธาธิการจังหวัดตรวจวัดได้เพียง 210 กก./ตร.ซม.  ผู้รับจ้างไม่ดำเนินการโดยอ้างผลทดสอบเสาจากวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์  คณะกรรมการตรวจการจ้างตรวจไม่ผ่านเมื่อ 12 พ.ย.64  และโรงเรียนแจ้งผู้รับจ้าง เมื่อ 15 พ.ย.64  โรงเรียนแจ้งให้ผู้รับจ้างเข้ามาดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในธันวาคม 2564  แต่ปัจจุบันโรงเรียนมีหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญา แจ้งเป็นผู้ทิ้งงานแล้ว