หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานเพื่อรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 73 เป็นเครื่องพิสูจน์...*...

เหลืออีกไม่กี่วัน  จะถึงวันเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป 14 พฤษภาคม 66 เมื่อเข้าสู่ “โค้งสุดท้าย” ก่อนถึงวันหย่อนบัตร บรรยากาศการต่อสู้ระหว่าง “พรรค” ระหว่าง “ขั้วอุดมการณ์” ย่อมดุเดือด อย่างที่เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม ไปจนถึงเวลา 17.00 น.ของวันที่ 14 พฤษภาคม “กกต.” ออกกฎเหล็กเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า “ห้ามเผยแพร่โพล”   7 วันก่อนเลือกตั้ง  ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายทำความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 ...*...

เมื่อไม่มีการเผยแพร่ โพลจากสำนักต่างๆ ตลอด 7 วันก่อนเลือกตั้ง จากนี้โอกาสที่จะมีการ “โหนโพล” เพื่อ “ทำกระแส” สำหรับบางพรรค ย่อมกระทบไปด้วย แม้ผลจากการสำรวจ ความเห็นจากประชาชน ของสำนักโพลต่างๆ อาจไม่ใช่ “ทั้งหมด” ของ “ปัจจัย” ที่จะนำไปสู่การตัดสินใจว่า ประชาชนจะเลือก หรือไม่เลือกใคร แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า “มีผล” อยู่บ้าง สำหรับ “กลุ่มพลังเงียบ” ที่ยังไม่ตัดสินใจ ...*...

ดังนั้นเมื่อในห้วงนี้จึงยิ่งทำให้ “ทุกพรรค” ทุกขั้ว ต่างต้องทำงานหนัก ทั้ง “ขั้วอนุรักษ์นิยม” และ “ขั้วประชาธิปไตย” เพื่อเร่งทำคะแนนช่วงชิง “กลุ่มพลังเงียบ” มาให้ได้มากที่สุด  ด้วยเหตุนี้จะเห็นได้ว่า แต่ละพรรคงัดกลยุทธ์ ทั้งใต้ดิน บนดิน ขึ้นโกยคะแนนกันอุตลุต รวมถึงการใช้ “โซเชียล” ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ...*...

ขณะที่การต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น การปราศรัยที่เข้มข้นกันทุกเวที แต่ดูเหมือนว่า “ฝ่ายการเมือง” ต่างอยู่ในสภาวะที่สู้ไป แต่ใจก็ยังหวั่นไหวว่า แม้จะชนะ “ศึก” ในสนามเลือกตั้ง แต่จะไปแพ้ “สงคราม” ใน “รัฐสภา” เมื่อไม่สามารถฝ่าด่าน “250 ส.ว.” อันเป็นด่านที่วิบากมากที่สุดหรือไม่ ? ...*...

ในสายตาของฝ่ายการเมืองที่เรียกตัวเองว่า “ประชาธิปไตย” ไม่ว่าจะเป็น “พรรคเพื่อไทย-พรรคก้าวไกล”  จึงตั้งป้อมตั้งท่า “เขย่า” บรรดา “สมาชิกวุฒิสภา”  ทั้ง 250 คน ในทุกเวทีปราศรัย ไปจนถึงเวทีดีเบตเพื่อปลุกให้ “สาธารณชน” ออกมาช่วย “กดดัน” สภาสูง อีกแรง เพราะเชื่อว่าแม้ “พรรคเพื่อไทย” หรือ “พรรคก้าวไกล” ได้ที่นั่งส.ส.เข้าสภาฯ จนเป็น “แกนนำตั้งรัฐบาล” แต่หากไม่ได้เสียงส.ว.โหวตสนับสนุน เพื่อให้ได้เสียง 376 เสียง ชื่อ “แคนดิเดตนายกฯ” ที่จะถูกเสนอ ก็จะจบลงทันที ! ...*...

ท่าทีของ “ส.ว.” ไม่ว่าจะออกมาให้สัมภาษณ์ แสดงความเห็นอย่างไร เมื่อใด จึงถูกจับตาและ “อ่านสัญญาณ” ว่า “เสียงส.ว.” จะเทไปทางไหน เป็นไปได้หรือไม่ที่ ชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” จากพรรคเพื่อไทย หรือ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” จากพรรคก้าวไกล จะได้รับเสียงโหวตให้นายกฯคนที่ 30 ได้หากผลการเลือกตั้ง ชี้ว่าพวกเขาคือพรรคใหญ่ ...*...

ในความเป็นจริงอีกด้านหนึ่งที่ “ฝ่ายประชาธิปไตย” อาจไม่เคยพูดถึงนั่นคือ  “250ส.ว.” นั้นยังมีภาวะที่เรียกว่า “เสียงแตก” และจะไม่โหวต เทให้ “แคนดิเดตนายกฯ” จากพรรคฝ่าย “อนุรักษ์นิยม” ทั้งหมดเช่นกัน ทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯจากพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตจากพรรคพลังประชารัฐ ต่างก็รอดูและจับทิศทางความเคลื่อนไหวของ “250 ส.ว.” เช่นกัน ! ...*...

ที่มา: พันแสง(08/05/66)