นครพนม ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย ระดมทีมขุนพลเพื่อไทย ลงพื้นที่ปราศรัยเชิงรุกโค้งสุดท้าย บุกถิ่นทวงแชมป์ประกาศล้ม สหายแสง ศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นครพนม เบอร์ 3 ภูมิใจไทย ชูนโยบายแก้จน ปัญหาราคาสินค้าการเกษตร ปราบยาเสพติด มั่นใจกระเป๋าเงินดิจิตอล เข้าถึงประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน จับตาศึกเพื่อไทย วัดบารมี ทวงแชมป์ สหายแสง
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โค้งสุดท้าย ในเขตเลือกตั้งที่ 1 อ.ศรีสงคราม อ.บ้านแพง อ.นาทม และ อ.นาหว้า ถือเป็นพื้นที่สำคัญ เดิมเป็นพื้นที่แชมป์เก่า สหายแสง ศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้ สมัคร ส.ส.เขต 2 นครพนม เบอร์ 3 ภูมิใจไทย ที่ได้ตำแหน่ง ส.ส. มาเพียงที่นั่งเดียว จากพื้นที่ 4 เขต ของ นครพนม มาครั้งนี้ สหายแสง ยอมทิ้งฐานที่มั่น ส่งภรรยา คือ นางพูนสุข โพธิ์สุ ผู้สมัคร ส.ส. เขต1 นครพนม เบอร์ 5 พรรคภูมิใจไทย ลงแทน ชนกับ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย ส่วน สหายแสง ย้ายไปลงสมัคร พื้นที่ เขต 2 ชนกับแชมป์เก่า ดร.มนพร เจริญศรี ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย
ทำให้ การเลือกตั้งพื้นที่ เขต 1 ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย ต้องหาเสียงเชิงรุก เพื่อทวงแชมป์ หนุนแลนด์สไลด์ และเป็นการวัดบารมีระหว่างครอบครัวเพื่อไทย กับครอบครัว สหายแสง โดยในช่วงหาเสียงโค้งสุดท้ายยิ่งเข้มข้น เปิดเวทีปราศรัยวันต่อวัน ได้นำทีมขุนพล คนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายสุทิน คลังแสง อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีต รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด นายเอกพร รักความสุข นายสมนาม เหล่าเกียรติ ดร.มนพร เจริญศรี ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย รวมถึงแกนนำเพื่อไทย อีกหลาย คน เพื่อลงพื้นที่ปราศรัย พบปะชาวบ้านนในพื้นที่ เขตเลือกตั้งที่ 1 นครพนม และชูนโยบายสำคัญในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาความยากจน แก้ปัญหายาเสพติด
ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครพนม เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย กล่าวปราศรัย ว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นศึกระหว่างพรรคเพื่อไทย ฝ่ายประชาธิปไตย กับอำนาจเผด็จการ และเป็นวันทวงอำนาจคืนประชาชน หลังเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจนานกว่า 8 ปี ตนเชื่อมั่นว่า นโยบายหลักสำคัญ อาทิ กระเป๋าเงินดิจิตอล คนละ 10,000 หมื่นบาท จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี เนื่องจากพี่น้องประชาชน เดือดร้อนด้านเศรษฐกิจมานานหลายปี จะเป็นการปั้มหัวใจด้านเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวส่วนหนึ่ง ในระดับรากหญ้า นอกเหนือจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอีกหลายด้าน ไปจนถึงการแก้ปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ การลดต้นทุนการเกษตรเพิ่มผลผลิต เพราะเป็นพื้นฐานของเกษตรกร ไปจนถึงการพัฒนาการศึกษา สำคัญที่สุดอีกเรื่องคือนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่เป็นปัญหาหลักสังคม อย่างไรก็ตามถึงเวลาแล้วที่พี่น้องประชาชน จะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย สร้างแลนด์สไลด์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล กลับมาแก้ปัญหาประเทศชาติต่อไป