วันนี้ ( 7 พฤษภาคม 2566 ) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม สถานที่จัดการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ของจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งในเวลา 08.40 น.นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เดินทางมาใช้สิทธิลำดับที่ 645 ชุดเลือกตั้งที่  5 ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าตามที่ได้ลงทะเบียนนอกเขตจังหวัด ด้วยมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ก่อนจะเดินทางไปตรวจความเรียบร้อยของหน่วยเลือกตั้งประจำแต่ละอำเภอ

นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันนี้ 7 พฤษภาคม 2566  และ วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ในเวลา 08.00-17.00 น. โดยให้เตรียมความพร้อมในการยืนยันตัวตน 

นายพงษ์ศักดิ์ รัตนมณเฑียร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งคอยอำนวยการจัดการเลือกตั้งฯ ได้เปิดเผยว่าจังหวัดพิษณุโลก มีผู้แจ้งขอเลือกตั้งล่วงหน้า นอกเขตและในเขต จำนวน 15,734 คน  มีหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าแบบนอกเขต ในเขต และ หน่วยเลือกตั้งกลาง ทั้ง 5 เขตเลือกตั้ง รวม 15 หน่วย ใน 5 อำเภอ สำหรับที่หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ซึ่งจัดให้เป็นหน่วยเลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้งเขต 1 อำเภอเมืองพิษณุโลก ที่จุดนี้ มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิไว้กว่า 10,586 คน

โดยตั้งแต่ก่อนเปิดหีบเลือกตั้ง มีผู้ที่ลงทะเบียนไว้มารอใช้สิทธิ์จำนวนมาก โดยตั้งแต่เวลา 06.30 น.  เจ้าหน้าที่ กกต.เขต 1 และ เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งกลาง ได้มาเตรียมความพร้อมสถานที่เลือกตั้ง และตรวจสอบอุปกรณ์เลือกตั้งครั้งสุดท้ายก่อนเปิดหีบเลือกตั้ง นายเจนกวิน  เต็มยอด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 1  แจ้งว่าก่อนหน้านี้ได้มีการซักซ้อมลำดับขั้นตอนวิธีการ และปรับสถานที่ช่องทางการเดินเข้า-ออก จุดวางหีบบัตร ทำป้ายแผนผังการตั้งคูหาเลือกตั้ง โดยจัดคูหาเลือกตั้งทั้ง 21 ชุด แบบหันหลังชนกันตามกลุ่มจังหวัด และมีทางเข้าออกแยกจากกัน เพื่อลดความแออัดของผู้มาใช้สิทธิ เนื่องจากที่นี่มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งจำนวน 10,586 คน มี  21 ชุดเลือกตั้งแบ่งเป็นชุดละประมาณ 500 คน จำนวน  399 เขต ครบทั้ง 77 จังหวัด  

จนถึงในขณะนี้ มีผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง ทยอยมารอใช้สิทธิ์ เนื่องจากส่วนใหญ่จะใช้วันหยุดยาวเดินกลับภูมิลำเนาหรือทางท่องเที่ยว และถือโอกาสมาใช้สิทธิที่บ้าน ก่อนจะเดินทางกลับไปทำงาน โดยประชาชนที่มาใช้สิทธิส่วนใหญ่บอกไม่ยุ่งยาก เพราะจัดเตรียมบัตรประจำตัว หรือเอกสารที่ยืนยันตัวตนที่มีหมายเลข 13 หลัก  พร้อมกับตรวจสอบรายชื่อ และลำดับที่เลือกตั้งมาบ้างแล้ว ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบรายชื่อ ทาง กกต.เขต 1 ได้จัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ พร้อมจัดทำเอกสารรายชื่อของ ส.ส.เขต ในพื้นที่ต่าง ๆ ติดประกาศเอาไว้ให้ ณ ที่เลือกตั้ง  เพื่อให้ผู้มีสิทธิตรวจสอบรายละเอียดก่อนเข้าคูหา 

ส่วนหน่วยเลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.จัดไว้ที่ศูนย์ประสานแผนพัฒนาท้องถิ่นประจำ อ.เมือง /อ.พรหมพิราม/อ.วังทอง/อ.บางระกำ/อ.นครไทย รวม 5 เขตเลือกตั้ง มีผู้ลงทะเบียนประมาณ 371 คน   ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ต้องไปปฏิบัติงานประจำหน่วยเลือกตั้งในวันที่ 14  พฤษภาคม ด้านการรักษาความปอลดภัยและความสงบเรียบร้อยในวันนี้ พลตำรวจตรีระวีพรรษ  อมรมุนีพงษ์  รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เดินทางมาตรวจตราความเรียบร้อย นำชุดเคลื่นที่เร็วมาพร้อมที่หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งจะเน้นการให้ความสะดวกกับพี่น้องประชาชน และป้องกันการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ


               
นายพงษ์ศักดิ์  รัตนมณเฑียร    ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิษณุโลก ย้ำเพิ่มเติมอีกว่าผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ว่า การเลือกตั้งล่วงหน้า วิธีการจะแตกต่างจากการใช้สิทธิลงคะแนนปกติ  เมื่อลงคะแนนแล้ว จะต้องนำบัตรลงคะแนนใส่ซองปิดผนึก มีเจ้าหน้าที่เซ็นชื่อกำกับที่ซอง ก่อนที่จะหย่อนซองลงในหีบเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อทำการคัดแยกแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะจัดส่งซองบัตรไปยังเขตเลือกตั้งแต่ละจังหวัดตามที่ระบุไว้หน้าซองได้ถูกต้อง  สำหรับบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้ว เย็นวันนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะมารับหีบบัตรจัดส่งไปยังเขตเลือกตั้งของผู้ใช้สิทธิ  เพื่อเปิดนับคะแนนพร้อมกัน หลังปิดการลงคะแนนในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ 


              
สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งครั้งนี้ อาจมีผู้ที่มีสิทธิลงคะแนนจำนวนไม่น้อย ไม่เคยมีประสบการณ์ในการลงคะแนนมาก่อน  อาจเกิดความสับสนในการเลือก สส. ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง จะต้องจำเบอร์ ส.ส.เขต ตามเขตที่เรามีสิทธิเลือกตั้ง เช่นทะเบียนบ้านอยู่ กทม.แต่ตัวมาทำงานที่พิษณุโลก จะต้องเลือก สส.ของ กทม.  โดยผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งจะได้รับบัตรเลือกตั้งสองใบ  คือบัตรสีม่วง สำหรับเลือก ส.ส. แบบแบ่งเขต ซึ่งจะมีแค่เบอร์ผู้สมัครและช่องให้กากบาทเท่านั้น ไม่มีชื่อผู้สมัครและพรรคการเมืองแต่อย่างใด ดังนั้น จึงควรดูเบอร์ที่ติดอยู่หน้าคูหาเลือกตั้ง หรือตรวจสอบหมายเลขที่ถูกต้อง และจำไว้ให้ดีเพื่อเวลาเข้าไปกาในคูหาจะได้กากบาทเลือกได้อย่างถูกต้อง  และ บัตรสีเขียว  สำหรับเลือกพรรคการเมืองที่ชื่นชอบ ซึ่งนอกจากมีเบอร์และช่องให้กากบาทแล้ว จะมีโลโก้และชื่อพรรคการเมืองระบุไว้ ซึ่งใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ 


              
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ ขอให้ไปใช้สิทธิในวันนี้ เพราะชื่อถูกตัดโอนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว หากไม่มาใช้สิทธิจะไม่สามารถไปใช้สิทธิในวันที่ 14 พฤษภาคมได้อีก แต่สามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิได้ ในช่วง 7 วัน ก่อนเลือกตั้ง คือ ระหว่างวันที่ 8-13 พฤษภาคม 2566 หรือ 7 วันหลังการเลือกตั้ง คือ วันที่ 15-21 พฤษภาคม 2566.