วันที่ 5 พ.ค.66 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีแอม ไซยาไนด์ ร่วมกับทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าถึงความคืบหน้าทั้งหมด 15 คดี จากการประชุมฝ่ายสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก พยานหลักฐานมีช่องโหว่เหลือไม่เยอะแล้ว และยืนยันได้ว่าพยานหลักฐานขณะนี้มัดตัวแอมได้อย่างแน่นอน และวันที่ 6 พ.ค. ตนจะไม่เข้าไปที่เรือนจำแล้ว เพราะเจ้าตัวไม่รับสารภาพ ก็ไม่เป็นไร แต่ยืนยันว่าพยานหลักฐานมีเพียงพอแล้ว ส่วนทนายความจะว่าอย่างไรก็ว่าไป เพราะไม่มีทนายความคนไหนที่บอกว่าสู้คดีไม่ได้ ตอนติดคุกทนายคงไม่ได้ติดด้วย ส่วนการที่แอมขอพบทนาย ซึ่งระบุว่าเป็นบุคคลที่ไว้ใจนั้น ไม่ได้เกินความคาดหมาย เพราะไม่ได้รอตรงนี้ เนื่องจากมีการรวบรวมพยานหลักฐานไปถึง 80 % เขาจะให้การหรือไม่ให้การยังไงก็ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายจะยอมจำนนกับหลักฐาน ส่วนที่ทนายมีความพยายามจะช่วยเหลือแอมทุกคดี เท่าที่ทราบทนายกับแอมเป็นเพื่อนกันสนิทกัน การจะว่าความให้ลูกความก็ไม่ผิดจะว่ายังไงก็ว่าไป
สำหรับประเด็นของดาราสาว ไอซ์ ปรีชญา ที่สั่งซื้อไซยาไนด์ทางออนไลน์ โดยอ้างนำไปกำจัดสัตว์มีพิษในบ้านนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ฟังไม่ขึ้น แต่คงต้องเรียกมาสอบปากคำก่อน และในวันจันทร์ที่ 8 พ.ค. เชิญผอ.กรมโรงงาน มาให้ข้อมูลและรายละเอียด ในการนำเข้าไซยาไนด์ และข้อมูลบริษัทที่นำเข้าทั้งหมดด้วยว่าแต่ละบริษัทมีวัตถุประสงค์ใดในการนำเข้ามาบ้าง ซึ่งวัตถุประสงค์หลักคือการนำมาศึกษาวิจัย และนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ แม้ไม่ได้ระบุว่าห้ามจำหน่าย แต่วัตถุประเภทนี้เป็นวัตถุควบคุม จึงต้องมาดูว่าคนครอบครองว่ามีความผิดหรือไม่ และบริษัทต่างๆ มีความผิดหรือไม่ แล้วเจ้าหน้าที่รัฐคือกรมโรงงานอุตสาหกรรมบกพร่องหรือไม่ หากพบว่าบกพร่องต้องดำเนินการคดีอาญา ม.157 ด้วย
หลังจากนี้ต้องเร่งแก้ไขระบบการชันสูตรพลิกศพที่จะต้องทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรม และกระทรวงสาธารณสุข ต้องไม่ใช้ดุลยพินิจแล้ว แต่ต้องมีมาตรฐานที่แน่นอนในการชุนสูตรพลิกศพ โดยไม่ใช้เพียงแค่ความพึ่งพอใจของญาติและของแพทย์ชันสูตรเหมือนเดิม