คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย

ขณะนี้การเมืองของสหรัฐฯได้ให้กำเนิดคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงวัย 38 ปี ที่มีฐานะระดับมหาเศรษฐี  ที่มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 630 ล้านดอลลาร์ โดยเขาผู้นี้มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ โดยเขาเพิ่งจะประกาศตัวต้องการกระโจนลงสู่สนามแข่งขันตำแหน่งประธานาธิบดี ในนามของค่ายพรรครีพับลิกัน ซึ่งผมใคร่ขอนำเรื่องราวมาแบ่งปันในบทความสัปดาห์นี้ครับ

นักการเมืองที่ผมเอ่ยมาข้างต้นมีชื่อว่า “วิเวก รามาสวามี” และเมื่อมองจากความสามารถของเขาแล้วแสนจะน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเขามีความเชี่ยวชาญเป็นทั้ง นักนวัตกรรม เป็นนักเปียโนชั้นเยี่ยม เป็นนักธุรกิจ เป็นนักแต่งหนังสือ เป็นนักพูด เป็นนักกิจกรรมสมัยเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แล้วไปจบด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยเยล และที่น่าทึ่งที่สุดก็คือ เขายังเป็นอดีตนักร้องแร็ปเปอร์อีกด้วย!!!

และถึงแม้ว่า วิเวก รามาสวามี จะไม่เคยมีพื้นฐานทางด้านการเมืองมาก่อนเลยก็ตาม แต่เขากลับกล้าหาญชาญชัยประกาศตัวลงแข่งขันในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ถัดจากการประกาศลงแข่งขันของ “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์”และ “นิกกี เฮลีย์” อดีตผู้ว่าฯรัฐเซาท์แคโรไลนา เพียงไม่นาน

ดูๆไปแล้ว  วิเวก รามาสวามี  เป็นคนที่มีความสำเร็จเกินตัว ซึ่งฉายแววออกมาตั้งแต่เขาเรียนหนังสือในระดับมัธยม โดยเขาเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนระดับท๊อปห้องมาตลอดๆ

วิเวก รามาสวามี เกิดเมื่อปี ค.ศ.1985 ที่รัฐโอไฮโอ ในครอบครัวฮินดู โดยเขาเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมของศาสนาจักรคาทอลิก

ขณะที่วิเวก รามาสวามี เรียนในระดับมัธยมที่โรงเรียน “St. Xavier High School” ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชน เขาได้รับคะแนนสูงสุดของรุ่น และยังเป็นนักเทนนิสรุ่นเยาว์ระดับประเทศแถมขณะที่เขากำลังศึกษาในระดับไฮสคูลอยู่นั้นเขายังมีจิตอาสาเล่นเปียโนให้แก่ผู้ป่วยอัลไซเมอร์อีกด้วย!!!

และขณะที่วิเวก รามาสวามี เข้าเรียนในระดับปริญญาตรีที่ฮาร์วาร์ด  สาขาชีววิทยา (Biology) เขาสำเร็จเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

อีกทั้งขณะที่กำลังเรียนอยู่ที่ฮาร์วาร์ด วิเวกรามาสวามี ก็ยังเป็นประธานสหภาพการเมืองของมหาวิทยาลัย และเขาได้ให้สัมภาษณ์ต่อ “Harvard Crimson” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในหัวข้อที่ว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนที่ชอบโต้แย้ง”

วิเวก รามาสวามี  ได้สร้างผลทางด้านวิชาการให้เป็นที่ประจักษ์ตั้งแต่สมัยเรียนในระดับปริญญาตรี ที่ฮาร์วาร์ด โดยเขาเขียนผลงานวิจัยในปีสุดท้ายเกี่ยวกับ “จริยธรรมของการสร้างความฝันของมนุษย์และสัตว์” ที่ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์

อีกทั้งขณะที่ วิเวก รามาสวามี กำลังเรียนอยู่ที่ฮาร์วาร์ด  เขาก็มีชื่อเสียงในฐานะนักร้องแร็ปเปอร์

อนึ่งวิเวก รามาสวามี  ได้เริ่มอาชีพประจำที่ “QVT Financial” ในตำแหน่งผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของวอลสตรีท ระหว่างปีค.ศ. 2007-2014 และถึงแม้ว่าวิเวก รามาสวามี กำลังทำงานเลี้ยงชีพอยู่นั้น เขาก็มิได้หยุดชีวิตเอาไว้เพียงแค่ตำแหน่งผู้จัดการ เขาได้ตัดสินใจที่จะเข้าไปศึกษาต่อทางด้านกฎหมาย ณ มหาวิทยาลัยเยล

และจากการประสบความสำเร็จในอาชีพแรกของเขา ซึ่งได้สร้างความพึงพอใจแก่เจ้านายของเขาเป็นอย่างมาก จนเขาได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทที่เขาประจำอยู่เมื่อตอนอายุแค่เพียง 28 ปีเท่านั้น

และถึงแม้ว่าขณะนั้นเขาประกอบสัมมาอาชีพที่มีความรุ่งเรืองในบริษัทดังกล่าวแล้วก็ตาม แต่เขากลับตัดสินใจลาออก เพื่อที่จะก่อตั้งบริษัททางด้านเภสัชกรรมขึ้นมาในปีค.ศ. 2014 โดยเขาสามารถระดมทุนก่อตั้งได้ถึง 83 ล้านเหรียญดอลลาร์ ที่มีอดีตนายจ้างของเขาเข้าร่วมด้วย!!!

สำหรับแนวความคิดด้านการผลิตยาของ วิเวก รามาสวามี นั้น ช่างแสนจะแตกต่างไปจากบริษัทผลิตยาอื่นๆโดยสิ้นเชิง เพราะเขามุ่งผลิตยาที่บริษัทยาอื่นๆไม่สนใจ

และถึงแม้ว่าธุรกิจแรกจะไปไม่ถึงดวงดาวก็ตาม แต่ในปีค.ศ. 2017 เขาก็ตัดสินใจก่อตั้งบริษัทใหม่ทางด้านชีววิทยาศาสตร์ ที่ครั้งนั้นเขาสามารถระดมทุนได้มากถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

และครั้งนี้ดูเหมือนว่าเส้นทางธุรกิจใหม่ของเขาจะโรยไปด้วยดอกกุหลาบที่มากกว่าเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก จนมีผลทำให้เขาสามารถยกระดับขั้นของตนเองกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯที่มีอายุต่ำว่า 40 ปี

ทั้งนี้เมื่อปีค.ศ. 2021 วิเวก รามาสวามี ตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัท โดยให้เหตุผลว่า ตนเองต้องการจะมอบเวลาในการเขียนหนังสือให้มากขึ้น และเหนือสิ่งอื่นใดต้องการที่จะเบนเข็มชีวิตมุ่งเข้าสู่แวดวงการเมือง!!!

และภายในระยะเวลาไม่กี่ปีปรากฏว่า วิเวก รามาสวามี สามารถสร้างผลงานด้านการเขียนหนังสือเอาไว้มากมายหลายๆเล่มที่ล้วนแล้วแต่เป็นที่นิยมของบรรดาผู้อ่าน สำหรับรายชื่อหนังสือของวิเวก รามาสวามี ที่กำลังฮิตติดท้องตลาดมีได้แก่ “Capitalist Punishment”, “Nation of Victims” “Woke, Inc.” “Lies, Lies and More Lies: The Campaign to Defame Hindu/Indian Nationalism”

สำหรับหนังสือ “Woke, Inc.” ที่ตีพิมพ์ออกมาจำหน่ายเมื่อปีค.ศ. 2021 ซึ่งเป็นหนังสือผสมผสานระหว่างศีลธรรมและการบริโภคนิยม หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ได้จัดอันดับให้หนังสือของเขาเล่มนี้เป็นหนังสือยอดนิยมอีกเล่มหนึ่งเลยทีเดียว

และหนังสือเล่มใหม่ยอดนิยมที่ออกสู่ท้องตลาดในปีนี้มีชื่อว่า “Nation of Victims: Identify Politics, the Death of Merit, and the Path Back to Excellence” ซึ่งเกือบทั้งหมดล้วนแต่เป็นหนังสือที่วิพากษ์วิจารณ์การเมืองของสหรัฐอเมริกา

นอกจากวิเวก รามาสวามี จะมีพรสวรรค์หลายๆด้านแล้ว เขาก็ยังเป็นนักวิเคราะห์การเมือง เศรษฐกิจและสังคมในรายการของฟอกซ์นิวส์เป็นประจำ จนเขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างของสหรัฐฯ และเขาก็ยังเขียนบทความในหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆอีกหลายฉบับอีกด้วย

ความฝันที่วิเวก รามาสวามี ตั้งใจจะเข้าสู่เวทีการเมืองเริ่มขึ้นเมื่อเขาออกมาป่าวประกาศที่จะลงแข่งขันตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2023 ที่เขาออกมาปรากฏตัวในรายการ “Tucker Carson Tonight” ของพิธีกรชื่อดังที่สุดและกำลังมีเรื่องอื้อฉาวถูกสั่งปลดกลางอากาศจากการเป็นผู้จัดรายการที่มีผู้ชมมากที่สุด

อนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” ได้เขียนข้อความลงใน “Truth Social” ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียที่เขาตั้งขึ้นมา โดยส่งสัญญาณแปลกประหลาดแบบไม่เคยมีมาก่อนว่า “จะไม่ร่วมโต้วาทีกับผู้ที่ลงแข่งขันในพรรคการเมืองเดียวกัน” โดยให้เหตุผลแบบพิลึกๆว่า “เนื่องจากขณะนี้คะแนนนิยมของข้าพเจ้ากำลังนำลิ่วอยู่แล้ว”

และทันทีที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาเผยแพร่ข่าวประหลาดๆลงในโซเชียลมีเดียของเขาแล้วนั้น ปรากฏว่ามีกระแสต่อต้านตอบโต้ออกมาอย่างทันทีทันควันที่รวมไปถึงบรรดาสื่อมวลชนต่างๆอีกด้วย

อาทิบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ “Washington Examiner” เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2023 ที่มีเนื้อหาสาระบ่งชี้ว่า

“บางทีอดีตประธานาธิบดีทรัมป์อาจต้องการจะปกปิดจุดอ่อน หรืออาจจะเป็นคนขี้ขลาดตาขาว”

ส่วนวิเวก รามาสวามีก็มิได้รอช้าออกมากล่าวโต้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ว่า “การที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์จะได้รับเลือกเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันได้หรือไม่นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องผ่านการโต้วาทีระหว่างผู้ลงสมัครของพรรครีพับลิกันเสียก่อน และข้าพเจ้าจะไม่ปล่อยให้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์หนีไปไหน”

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นเมื่อจะวิเคราะห์จากความสามารถและประสพการณ์ของ“วิเวก รามาสวามี”แล้วดูเหมือนว่าน่าประทับใจและน่าสนใจในคุณสมบัติที่คลื่นลูกใหม่ไฟแรงผู้นี้มีอยู่มิใช่น้อย แต่อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับอเมริกันชนว่า ใจกว้างเพียงพอที่จะเปิดใจอ้าแขนให้โอกาสเขาหรือไม่?ละครับ