เวลา 17.00 น.วันนี้ (3 พ.ค.2566) ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ เขต 1 จังหวัดบุรีรัมย์ เลขที่ 109/2-3 บ้านกุง ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายเจษฎากร เขียนนิลศิริ หรือ “รองปุย” อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยทีมงานหาเสียง ได้จัดแถลงข่าว ภายหลังจากพา นายมานิตย์ สันธิ อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นทีมงานขับรถยนต์แห่ ออกแห่หาเสียงตามถนนในหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อแนะนำตัวผู้สมัคร และประชาสัมพันธ์นโยบายพรรคให้ประชาชนในเขตเลือกตั้งได้รับทราบ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์  เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

               

โดย นายมานิตย์ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2566 เวลาประมาณ 12.30 น.ขณะที่ขับรถยนต์ประชาสัมพันธ์หาเสียงผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ พรรคพลังประชารัฐ ขณะที่ขับรถยนต์ไปถึงบริเวณป่าอ้อย ระหว่างหมู่บ้านระเบิก กับหมู่บ้านกระชาย ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้มีชาย 2 คนขับรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน สวมเสื้อแจ็กเก็ต และกางเกงยีนส์ สีดำ (ชุดดำ) ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเอ็มสแลส สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้ขับรถจักรยานยนต์มาเทียบด้านข้างและบอกให้ยุดรถ จากนั้นจึงได้หยุดรถ และชาย 2 คน ได้พูดจาข่มขู่ว่า “มาวิ่งหาเสียงให้เขาทำไม” พร้อมกับใช้อาวุธปืน ชนิดลูกโม่ ไม่ทราบขนาด จ่อมาที่ศรีษะ และบอกว่าห้ามเปิดเสียงประชาสัมพันธ์การหาเสียงผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ

               

จากนั้น ก็ขับรถยนต์เข้าไปในพื้นที่ชุมชนเพื่อไปขอความช่วยเหลือ แต่ชาย 2 คน ยังขับตามอยู่ หลังจากนั้น จึงเลิกติดตาม และเห็นว่า ชายดังกล่าวมุ่งหน้าไปทาง ต.หนองใหญ่ อ.สคึก จ.บุรีรัมย์  รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามชายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

               

นายมานิตย์ กล่าวว่า ตนทำผิดอะไรตรงไหน มารับจ้างรายวัน หาเลี้ยงครอบครัว ก็อยากให้ทางตำรวจช่วยดูแล เพราะการกระทำแบบนี้ ไม่สมควร เจอเหตุการณ์เช่นนี้ก็เสียใจ เพราะการเมืองทุกวันนี้ไม่น่าจะมีแล้ว ทำให้เกิดผลกระทบต่อขวัญกำลังใจในการทำงาน แต่ก็ยังสู้

               

ด้านนายเจษฎากร เขียนนิลศิริ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วันนี้อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากทีมงานขับรถแห่หาเสียง ได้ถูกชายชุดดำมาข่มขู่ โดยใช้อาวุธปืน จึงได้พาทีมงานไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นลักฐานที่ สภ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัยที่จะเกิดขึ้น ที่จะทำให้ทีมงานเสียขวัญกำลังใจและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

               

“อยากฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า วันนี้ก็อยากให้ติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งจะเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับการเลือกตั้งที่ปัจจุบันนี้ ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง การเมืองแบบเดิมๆ ควรยุติลงได้แล้ว ขัดแย้งทางความคิดไม่ได้ถือว่าเราจะต้องมาประหัตประหาร ถึงขั้นข่มขู่เอาชีวิต ซึ่งกันและกัน” นายเจษฎากร กล่าว

​​​​​​​