นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย ถือเป็นช่วงที่มีปริมาณผลไม้ออกสู่ตลาดจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้ปริมาณผลผลิตดังกล่าว มีการหมุนเวียนในตลาดและสามารถส่งถึงมือผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ทันตามฤดูกาล และช่วยลดปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ ธ.ก.ส. จึงพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับกรมการค้าภายใน ในการสนับสนุนเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องในการรับซื้อผลไม้ ภายใต้โครงการบริหารจัดการผลไม้ปี 2566 ให้กับสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ (นิติบุคคล) ที่ได้รับสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. อยู่แล้ว เพื่อนำไปเป็นทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมในการรวบรวมและรับซื้อผลไม้ จำนวน 8 ชนิด ได้แก่ มะม่วง ทุเรียน มังคุด เงาะ ลำไย ลิ้นจี่ ลองกอง และสับปะรด ในช่วงระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 31 ตุลาคม 2566 ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจะชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
ทั้งนี้ สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการที่รวบรวมผลไม้ สามารถแจ้งความจำนง สมัครเข้าร่วมโครงการกับ ธ.ก.ส. สาขาที่ให้บริการสินเชื่อ ภายในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 โดยวงเงินกู้ยืมต่อรายสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR-3 (ปัจจุบัน MLR เท่ากับร้อยละ 5.375 ต่อปี) หรืออัตราดอกเบี้ยตามโครงการที่กู้ –3%