ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดช่วงเช้าวันนี้(3 พ.ค.)ที่ 1,519.87 จุด ลดลง 8.56 จุด (-0.56%) มูลค่าการซื้อขาย 31,892 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับต่ำสุด 1,507.22 จุด และระดับสูงสุด 1,521.94 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าปรับลงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ จาก sentiment ของการลงทุนที่เป็นไปในเชิงลบ หลังเกิดความกังวลความเสี่ยงปัญหาธนาคารในสหรัฐอาจจะลุกลาม และความเสี่ยงการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐว่าจะสามารถทำได้ทันเส้นตายในวันที่ 1 มิ.ย. หรือไม่ หากไม่ทันจะทำให้รัฐบาลสหรัฐต้องเผชิญปัญหาผิดนัดชำระหนี้
ขณะเดียวกันยังมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรง 5% จากแนวโน้มของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และกดดัชนีในวันนี้ปรับตัวลงมากขึ้น อีกทั้งตลาดหุ้นไทยเตรียมเข้าสู่วันหยุดยาวอีกครั้ง ทำให้มีแรงขายปิดความเสี่ยงออกมากดดันด้วยเช่นกัน
โดยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่ายังคงแกว่งตัวในแดนลบต่อ โดยที่ตลาดยังคงรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ว่าจะมีการส่งสัญญาณยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่หากมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบ 0.25% มาที่ 5-5.25% ตามที่ตลาดคาด โดยให้แนวต้าน 1,530 จุด แนวรับ 1,510 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,662.56 ล้านบาท ปิดที่ 30.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,381.45 ล้านบาท ปิดที่ 144.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,333.30 ล้านบาท ปิดที่ 18.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,282.04 ล้านบาท ปิดที่ 76.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 913.98 ล้านบาท ปิดที่ 212.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
