วันที่ 2 พ.ค.66 นายปฏิพล อภิญญาณกุล นักเขียนชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Padipon Apinyankul ระบุข้อความว่า คอนเสิร์ต 37 ปี อัสนี&วสันต์ .. จบลงไปแล้ว ผมติดตามคอนเสิร์ตนี้ ผ่านทางเพจของเพื่อนๆ จำนวนหนึ่ง บางคนใจดีมากเลยครับ ได้ถ่ายคลิปทุกเพลงที่พี่ป้อม และพี่โต๊ะร้องบนเวที มาลงในเฟสบุ๊ค บางคนถ่ายบรรยากาศแฟนๆเพลง ที่มาดูคอนเสิร์ต
แต่ทุก ๆ คนจะเหมือนกันหมดเรื่องหนึ่ง ตรงที่ถ่ายและกล่าวถึง ว่า มีการ "การเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี" ก่อนเล่นคอนเสริต์ ตามด้วยเพลง "กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์"
งานนี้ไม่มีคนโห่ฮา ป่าเถื่อน .. จะสรุปว่าคอนเสิร์ตนี้ล้วนแต่เป็น "สลิ่ม" ก็คงสรุปได้
.. กระนั้นส่วนตัวผมเชื่อว่า ก็คงมีเสื้อแดงที่รักในดนตรีร็อครุ่นใหญ่ ของคุณอัสนี+วสันต์ เพียงแต่เมื่อเข้ามาอยู่ในกระแสคลื่นกลางแม่น้ำเชี่ยว แล้ว เอาว้า ! ยอมเป็นสลิ่มก็สลิ่ม .. / เออ แฮะ ! สลิ่มมีความสุขแบบนี้เอย เชื่อเถอะ หลังจากนี้ .. จะรักและเป็นสลิ่มอย่างเต็มใจ
พี่ป้อม อัสนี และพี่โต๊ะ วสันต์ .. ได้ใช้เพลงสรรเสริญพระบารมี เปิดแสดงความเคารพ ก่อนจะเล่นคอนเสริต์ เป็นแบบนี้มานานแล้วครับ
อาจจะเรียกว่า ทุกครั้งเลยก็ได้ .. และเพลงกรุงเทพมหานคร .. ก็เป็นฝีมือการใส่ดนตรีใหม่ลงไป ในปี 2532 (อัลบั้ม ฟักทอง)
คำขวัญกรุงเทพมหานครที่เคยเชย ๆ พลันเกิดความแปลกใหม่คึกคัก อลังการ และมีชีวิตขึ้น หัวใจพองฟูทุกครั้ง ที่ได้ฟัง ไม่เชื่อลองกลับไปฟังในยูทูปอีกครั้งซิครับ
กลายเป็น "จังหวะเพลงประจำตัว" ของกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ ฯ ไปโดยปริยาย อัสนีวสันต์ .. ในสมัยก่อน เป็นร็อคเกอร์สะอาด ๆ แต่งตัวง่าย ๆ เสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ หรือกางเกงทรงกระบอก เท่านั้น
เสื้อยืดคอกลมสีขาว กับกางเกงทรงกระบอก จะพบเห็นประจำ ปัจจุบันก็ยังคงสงใส่เสื้อยืดคอกลม แต่เปลี่ยนเป็นสีอื่น ๆ บ้าง เช่น สีดำ น้ำเงินเข้มและไม่เคยเห็นพี่ทั้งสองคนใส่เสื้อยืดสีสดอื่น ๆ เลย .. เช่น เขียว ฟ้า ม่วง แดง หรือเสื้อลาย
ร็อคเกอร์สองพี่น้อง ใช้ฝีมือดนตรีแสดงความเป็นร็อค .. โดยไม่ต้องพึ่งพาลักษณะทางกายภาพ อาทิ ผมเผ้ารุงรัง หนวดเคราดก เสื้อหนังหนา ๆ หรือรองเท้าบูทหนังสูงถึงแข้ง
ไม่ต้องตะโกนหยาบคาย ร้องแบบตวาดเสียงดัง หรือกระโดดเต้นกระทืบเท้าโครมๆ นี้คือร็อคคลาสสิค ร็อคแบบอารยะ
นั่งดูคลิปคอนเสิร์ตครั้งนี้ นับสิบ ๆ คลิป .. รู้สึกสุขใจไปด้วย เพียงแต่มีข้อสงสัยอยู่ในใจแบบสนุก ๆ ขึ้นมา คือไม่รู้ว่า พี่ป้อมกับพี่โต๊ะ .. จะทักทายแฟนเพลงด้านล่างอย่างไร ?
นี้สมมุติ สมมุตินะ ถ้าผมเป็นศิลปินแบบพี่ทั้งสอง ... ผมมองลงมาที่แฟนเพลง ผมคงจะทักขึ้นว่า ยกมือขึ้นหน่อยครับ ป้า ๆ ลุง ๆ ทั้งหลาย .. ไขข้อและความดัน เป็นยังไงกันบ้าง ..
เห็นบรรยากาศแฟนเพลงโดยรวมแล้ว สรุปสั้น ๆ ได้เพียงว่า เยาวชน 30 กว่าปีในวันนั้น ได้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่อย่างแข็งแรงทั้งกายและใจในวันนี้ เมื่อพวกเขาพวกเธอแข็งแรง ประเทศชาติก็แข็งแกร่งไปด้วย ดนตรีคือส่วนหนึ่ง ที่บอกลักษณะของสังคมและบุคคลผ่านยุคสมัยหนึ่ง ๆ
.. กุ้มใจไม่มี ล.ลิง กุ้มใจจริงจริง ล.ลิงไม่มี รักเธอ เธอไม่ยินดี ว่าตัวเรานี้ไม่มี ล. ..
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Padipon Apinyankul