สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า “เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค” วาณิชธนกิจชื่อดังในสหรัฐฯ เข้าซื้อกิจการธนคารเฟิสต์รีพับลิก หรือเอฟอาร์บี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ภายหลังจากหน่วยงานด้านการเงินของสหรัฐฯ ยึดกิจการ หลังธนาคารเอฟอาร์บี ลงทุนผิดพลาด และลูกค้าพากันถอนเงินออกจากธนาคาร จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาคธนาคารในระดับภูมิภาค

โดยบรรษัทคุ้มครองเงินฝากกลาง หรือเอฟดีไอซี ระบุว่า เจพีมอร์แกนจะรับเอาเงินฝากทั้งหมดของธนาคารเฟิสต์รีพับลิกไปดูแลต่อ เพื่อปกป้องคุ้มครองต่อผู้ฝากเงิน นอกจากนี้ ทางเจพีมอร์แกนก็ยังต้องดูแลสินทัพย์ต่างๆ เกือบทั้งหมดของธนคารเฟิสต์รีพับลิกันไปดูแลต่อ

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกค้าได้พากันถอนเงินออกจากธนาคารเฟิสต์รีพับลิกันไปแล้วมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากลูกค้าหวั่นเกรงที่ทางธนาคารฯ ลงทุนผิดพลาด กอปรกับธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลายระลอก จนส่งผลกระทบต่อบรรดาธนาคารต่างๆ รวมทั้งเฟิสต์รีพับลิกที่อาจจะล้มได้ เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นกับธนาคารซิลิคอนวัลเลย์ หรือเอสวีบี เมื่อช่วงก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอมเอฟ ออกมาเตือนว่า ถึงแม้ว่าเจพีมอร์แกนได้เข้าซื้อกิจการธนาคารเฟิสต์รีพับลิก แต่ภาคธนาคารของสหรัฐฯ ก็ยังมีความเปราะบางอยู่ และมีแนวโน้มเปราะบางมากขึ้นอีกด้วย จากการที่ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ แต่ก็ส่งผลให้ภาคธนาคารอ่อนแอ