วันที่ 2 พ.ค.66 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ดูแลงานด้านสืบสวน เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7,ตำรวจภูธรภาค 4,กองบังคับการปราบปราม กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยเกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ความคืบหน้าคดีนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องหาวางยาฆ่าชิงทรัพย์เหยื่อนับสิบราย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตลอดการทำงานทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยวันนี้ได้เรียกประชุมเร่งรัดสำนวนการสอบสวนคดีทั้งหมด ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 14 ราย รอด 1 ราย ออกหมายจับและแจ้งข้อหาแล้ว 10 คดี คงเหลืออีก 4 คดี พร้อมอายัดตัวผู้ต้องหาในเรือนจำเพื่อดำเนินคดีทั้งหมด ขณะเดียวกัน ตำรวจกำลังตรวจสอบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงไปยังผู้ใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องและร่วมกันกระทำความผิดด้วย 1 ราย ซึ่งเป็นตำรวจที่เคยเรียกสอบปากคำไปแล้ว
นอกจากนี้ยังพบแหล่งที่มาของไซยาไนด์แล้วว่าอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยตำรวจได้ขอหมายค้นจากศาล พร้อมประสานอธิบดีกรมโรงงานอุตสหากรรม และคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เข้าตรวจสอบเรื่องการนำเข้าของสารพิษดังกล่าว ซึ่งบริษัทที่นำเข้าจะต้องระบุวัตถุประสงค์การนำเข้า และมีวิธีควบคุมไม่ให้สารพิษนี้หลุดออกไปและไม่ให้นำไปใช้นอกวัตถุประสงค์ หากพบการกระทำผิดก็จะดำเนินคดีผู้นำเข้าด้วย และคาดว่าภายใน 1-2 วันจะสามารถรวบรวมหลักฐานขอหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดได้ ยืนยันตำรวจมีหลักฐานว่าแอมลงมือก่อเหตุทุกคดี ทั้งพยานแวดล้อมและผลการชันสูตรพลิกศพ
โดย รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีข้อมูลจากหลายส่วนว่ามีบุคคลที่เคยติดต่อกับแอมแล้วเสียชีวิต ซึ่งกำลังตรวจสอบว่ามีผู้เสียหายเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หากมีญาติผู้เสียชีวิตรายใดที่เคยพบปะและได้ดื่มกินอาหารจากแอม ให้มาติดต่อตนได้ที่สโมสรตำรวจ อีกทั้งยังได้สั่งการให้ผู้กำกับการแต่ละท้องที่ตรวจสอบในคดีที่มีการตายผิดธรรมชาติ เช่นลักษณะมือและเล็บเขียว ได้เน้นย้ำให้ต้องผ่าชันสูตรศพด้วย
ซึ่งในวันพรุ่งนี้(3 พ.ค.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้เรียกประชุมคณะทำงานในช่วงบ่ายเช่นกัน