กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้โอนเงินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งในเดือนพ.ค.66 ถือเป็นงวดที่สองให้กับผู้ลงทะเบียนรอบใหม่ที่ผ่านเกณฑ์และยืนยันตัวตนสำเร็จกว่า 13 ล้านราย โดยจะได้รับวงเงินดังนี้

-ทุกวันที่ 1 ของเดือน (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อเดือน

วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อ 3 เดือน

วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อเดือนประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL)

-ทุกวันที่ 18 พฤษภาคม 2566(มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า/ค่าน้ำประปา)

ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (กรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท)

ผู้มีสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ที่ลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิตามมาตรการฯลงทะเบียนกับผู้ให้บริการไฟฟ้าได้ 1 แห่ง และผู้ให้บริการน้ำประปาได้ 1 แห่ง (การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค) ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้ (ใบแจ้งหนี้) ในเดือนถัดจากเดือนที่ลงทะเบียนกับหน่วยงานดังกล่าว โดยผู้มีสิทธิที่มีค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา ตามเงื่อนไขของการให้สิทธิสวัสดิการ ไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา โดยกระทรวงการคลังจะดำเนินการจ่ายเงินคืนให้แก่หน่วยงานที่ให้บริการโดยตรง

-ทุกวันที่ 20 ของเดือน(เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน)

ผู้มีสิทธิเป็นผู้พิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน จะต้องทำการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรก่อน จึงจะได้รับสิทธิ โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก