วันที่ 1 พ.ค. 2566 เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 เม.ย. ที่จังหวัดพังงา พรรณประชาธิปัตย์ นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองหัวหน้าพรรค นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จัดเวทีปราศรัยหาเสียงให้กับ นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส. จังหวัดพังงา เขต 1 เบอร์ 1 นายราเมศ รัตนะเชวง ส.ส. จังหวัดพังงา เขต 2 เบอร์ 5 และ บัตรสีเขียว พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

โดยนายบัญญัติ ปราศรัยว่า เคยร่วมงานกับนายจุรินทร์ มาเวลานาน มีความผูกพันกับนายราเมศ ที่เป็นคนหนุ่มและเป็นกำลังสำคัญของพรรค มีความรู้มีความสามารถถ้าพี่น้องให้โอกาสราเมศเข้าไปทำงานในสภาได้ ก็เชื่อว่าเขาจะเป็นดาวสภาในอนาคต  จากการใช้เวลา 3 ชั่วโมงในเดินทางจากสุราษฎร์ธานีมาถึงพังงา ตนพยายามคิดหาเหตุผลว่ามีอะไรที่คนพังงาจะไม่เลือกคนพังงาด้วยกัน และตนก็ไม่พบว่าจะมีเหตุผลอะไรที่คนจังหวัดพังงาจะไม่สนับสนุนนายจุรินทร์ให้ก้าวเดินต่อไปอย่างยิ่งใหญ่ในทางการเมืองของประเทศไทย ทั้งประสบการณ์การเป็น ส.ส. 11 สมัย มีความชัดเจนในทางการเมือง แม้แต่นายชวน หลีกภัย ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความระมัดระวังในการทำงาน เนื่องจากหากแต่งตั้งใคร คนนั้นไปทำเรื่องเสียหาย อาจเดือดร้อนมาถึงตัวได้ แต่ก็ยังแต่งตั้งให้นายจุรินทร์ เป็นเลขารัฐมนตรี ของตัวเองถึง 2 ครั้ง 2 หน ถือเป็นการแสดงความไว้วางใจของนายชวน ที่มีต่อนายจุรินทร์ สมัยที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ปี 2548 ก็เลือกนายจุรินทร์ ให้มาเป็นรองหัวหน้าพรรค ก็ถือว่าตนก็มีความไว้วางใจต่อนายจุรินทร์เช่นกัน ในเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน เมื่อจะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก็มักจะมอบหมายให้นายจุรินทร์ ทำหน้าที่เป็นคนสรุปในตอนท้ายทุกครั้งไป และที่สำคัญในเวลาที่นายจุรินทร์ได้รับมอบหมายให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญๆ ก็มีผลงานมากมาย

นายบัญญัติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกเกิดปัญหามากจากวิกฤติโควิด หลายประเทศส่งออกสินค้าไม่ได้ แต่นายจุรินทร์ กลับสร้างยอดส่งออกให้กับประเทศไทยได้สูงเป็นประวัติการณ์ ร่วม  10 ล้านล้านบาท  และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผลสำรวจที่บ่งบอกว่า นโยบายประกันรายได้เกษตรกรผลักดันมาตลอด 4 ปี เป็นนโยบายที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด และนายจุรินทร์ ยังเป็นบุคคลที่มีความซื่อสัตย์ สุจริตด้วย นายจุรินทร์ ของเราเป็น 1 ไม่เป็น 2 ไม่รองใคร และเมื่อผมเห็นบรรยากาศในวันนี้แล้ว จึงมั่นใจว่าพี่น้องจะหนุนนายจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป  ดังนั้นการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. จะเป็นการเลือกตั้งที่จะแสดงให้เห็นว่าพี่น้องพร้อมใจให้จังหวัดพังงายกทีมยกคณะเช่นเดียวกับที่คนสุราษฎร์เลือกประชาธิปัตย์ยกทีม

ด้านนายชินวรณ์ กล่าวว่า ตนร่วมงานกับนายราเมศมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ถือว่าเป็นผู้มีความรอบรู้เรื่องกฎหมาย มีโอกาสร่างกฏหมายที่ประชาธิปัตย์เสนอทุกฉบับ รวมทั้งร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ผ่านความเห็นชอบนี้ด้วย ราเมศเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถและทำหน้าที่นอกจากเป็นเลขานุการประธานรัฐสภาแล้วยังมีบทบาทเป็นโฆษกพรรค และออกมาให้ชี้แจง แสดงข้อเท็จจริงเพื่อต่อสู้ให้กับประชาธิปัตย์ในหลายเรื่องอยู่บ่อยครั้ง หากได้เป็นผู้แทนเข้าสภา ก็จะทำงานได้ในทันที ดังนั้นขอให้พี่น้องเลือกราเมศ เบอร์ 5 เพื่อให้ลูกหลานชาวพังงาได้เป็นผู้แทนทำงานให้ประเทศต่อไป