สาวห้างที่บุรีรัมย์ สุดงงบุกร้อง กกต. หลังลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตออนไลน์สำเร็จแล้ว แต่ตรวจสอบรายชื่อล่าสุดระบบกลับแจ้งให้ไปใช้สิทธิ์ที่ปราจีนบุรีทั้งที่ลางานไว้แล้ว คาดระบบผิดพลาดเผยที่มาร้องเพราะกลัวเสียสิทธิ์และอยากเลือกตั้ง ด้าน ผอ.กกต.ชี้หากมีหลักฐานก็สามารถเพิ่มชื่อที่หน่วยเลือกตั้งกลางได้
(30 เม.ย.66) น.ส.สุนิชญา ยาทองทิพย์ อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งมาอาศัยอยู่กับสามีที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์ และปัจจุบันเป็นพนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ได้นำหลักฐานการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ผ่านระบบออนไลน์ เข้าร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากได้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตผ่านออนไลน์ เมื่อคืนวันที่ 9 เม.ย.66 ที่ผ่านมา โดยระบบแจ้งว่า ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว โดยระบุข้อความให้ไปใช้สิทธิ์ที่หน่วยเลือกตั้งกลางหอประชุมโรงเรียนภัทรบพิตร อ.เมืองบุรีรัมย์ แต่พอตรวจสอบสิทธิ์เมื่อวันที่ 28 เม.ย.66 ในระบบกลับแจ้งว่าให้ไปใช้สิทธิ์ ที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านหนองแหน จ.ปราจีนบุรี ภูมิลำเนาเดิมของตนเอง ก็แปลกใจและกลัวจะเสียสิทธิ์ด้วย จึงได้มาร้องที่ กกต.
โดย น.ส.สนิชญา บอกว่า ได้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตผ่านระบบออนไลน์ ช่วงประมาณ 4 ทุ่มครึ่งของวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งระบบก็ขึ้นโชว์ว่าลงทะเบียนสำเร็จ โดยตนมีชื่อใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ที่หน่วยเลือกตั้งกลางนอกเขต ณ หอประชุมโรงเรียนภัทรบพิตร อำเภอเมืองบุรีรัมย์
แต่พอมาตรวจเช็คสิทธิ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ในระบบกลับขึ้นโชว์ว่าให้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่จังหวัดปราจีนบุรี ตามชื่อในภูมิลำเนาเหมือนเดิม ก็งงและไม่รู้จะทำยังไง จึงได้ไปสอบถามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ กกต. ก็แนะนำให้ไปสอบถามที่สำนักทะเบียนราษฎรอำเภอเมืองบุรีรัมย์ แต่ จนท.สำนักทะเบียนก็บอกว่าไม่สามารถเพิ่มชื่อให้ได้ แนะนำให้ทำได้แค่ 2 แนวทาง คือ กลับไปใช้สิทธิ์ที่จังหวัดปราจีนบุรีตามที่มีชื่อ หรือแจ้งเหตุความจำเป็นที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิ์ได้
ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่ความผิดพลาดของตนเอง เพราะในระบบก็ขึ้นว่าลงทะเบียนสำเร็จแล้ว และตนก็ลงชื่อลางานกับที่ทำงานเพื่อจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตในวันที่ 7 พ.ค.66 ไว้เรียบร้อยแล้ว และตนเองก็ตั้งใจอยากจะใช้สิทธิ์ เพราะเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญและรอมานานถึง 4 ปีแล้ว แต่หลังกลับมาที่ กกต.อีกครั้ง และ ผอ.มารับเรื่องเอง ก็ยืนยันว่า ตนเองมีหลักฐานการลงทะเบียนสามารถเพิ่มชื่อที่หน่วยเลือกตั้งกลางและใช้สิทธิ์ได้ตามปกติ ก็ดีใจและขอบคุณทาง กกต.ด้วย
ด้าน น.ส.ปิยนาฏ กลางพนม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ได้กล่าวหลังมารับเรื่องด้วยตัวเองว่า ตามหลักการเพิ่ม-ถอนชื่อ หากมีหลักฐานยืนยันว่าได้ลงทะเบียนจริง ก็สามารถไปขอเพิ่มชื่อที่กรรมการหน่วยเลือกตั้งได้เลย ซึ่งกรณีของน้องผู้ร้องก็ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ในวันสุดท้ายช่วง 4 ทุ่มกว่า ซึ่งช่วงดังกล่าวมีคนลงทะเบียนจำนวนมาก จึงทำให้ระบบล่มตามที่ปรากฏเป็นข่าวในหลายพื้นที่ แต่เมื่อผู้ร้องยืนยันว่าได้ลงทะเบียนมีสิทธิ์เลือกตั้ง เขต 2 และมีหลักฐานชัดเจน ก็สามารถนำหลักฐานดังกล่าวไปแสดงต่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งกลางเพื่อเพิ่มชื่อ ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ตามปกติ ซึ่งทาง กกต.เองก็จะได้ประสานกับกรรมการประจำหน่วยได้รับทราบอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งถือเป็นรายแรกของ จ.บุรีรัมย์ ที่พบ ซึ่งทาง กกต.ก็จะได้นำไปเป็นแนวทางปฏิบัติ เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่ตั้งใจจะมาใช้สิทธิ์ได้ใช้สิทธิ์ทุกคน ซึ่งทาง กกต.ก็พร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอยู่แล้ว
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งนอกเขตและในเขต ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึง 9 เมษายน 2566 รวมจำนวน 9,977 คน แยกเป็นนอกเขต 9,296 คน และในเขต 681 คน