เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (29 เม.ย. 66 )นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี รองโฆษกพรรค เดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามข้างโรงแรมวังใต้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ปลุกพลังคนสุราษฎร์ฯ ทั้งจังหวัด เลือกคนของเรา พรรคของเรา ประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 พร้อมด้วย ผู้สมัคร 7 เขต นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ ผู้สมัคร เขต 1 เบอร์ 10 นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี ผู้สมัคร เขต 2 เบอร์ 2 นายปิยะรัฐ จิรัตน์ฐิกุล ผู้สมัคร เขต 3 เบอร์ 5 นายสมชาติ ประดิษฐพร ผู้สมัคร เขต 4 เบอร์ 1 นายสินิตย์ เลิศไกร ผู้สมัคร เขต 5 เบอร์ 6 นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ผู้สมัคร เขต 6 เบอร์ 2 นางสาวตวงทอง ประดิษฐพร ผู้สมัคร เขต 7 เบอร์ 9
บรรยากาศเวทีปราศรัย คึกคักที่สุด มีประชาชนเดินทางมาฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่น เมื่อนายจุรินทร์ หัวหน้าพรรค เดินทางถึงเวทีปราศรัย มีพ่อแม่พี่น้องทั้งหญิง-ชาย ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนรุ่นใหม่เข้ามาให้กำลังใจมอบดอกกุหลาบ ควงแขนถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดสนิทสนม เป็นกันเอง ทำให้กว่าที่นายจุรินทร์จะได้ขึ้นเวทีปราศรัยต้องใช้เวลาร่วมชั่วโมง
สำหรับการปราศรัยช่วงหนึ่งของนายจุรินทร์วันนี้ ได้กล่าวว่า ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ ได้เคลื่อน 3 ทัพบุกไปทั่วประเทศ เที่ยวนี้เราเอาจริง สู้ไม่ถอย จากการตระเวนไปในหลายพื้นที่มีเสียงตอบรับดีขึ้นเป็นลำดับ พร้อมกับถือโอกาสขอบคุณหัวใจคนสุราษฎร์ ที่ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็น 1 ใน 2 จังหวัดที่ยกทีม
และทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ ซึ่งล้วนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของประชาธิปัตย์ ล้วนมีความภูมิใจในฐานะที่เราเป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ได้ต่อสู้รับใช้พี่น้องมาอย่างยาวนาน
“ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องขอบอกว่าพรรคให้โอกาสอดีตผู้แทนราษฎรของประชาธิปัตย์ทุกคนเสมอมาและพร้อมที่จะส่งอดีตผู้แทนราษฎรลงสมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งพี่น้องเองก็มีความผูกพันมากับตัวเป็นผู้สมัคร แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ผู้แทนที่พรรคได้ประกาศลงเลือกตั้งในนามประชาธิปัตย์ได้ย้ายพรรคไป จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่พรรคจำเป็นต้องเปิดโอกาสให้คนใหม่ได้มีโอกาสเข้ามารับใช้พี่น้องชาวสุราษฎร์ธานี” นายจุรินทร์กล่าว
พร้อมกับสรุปในตอนท้ายว่า ขอให้พี่น้องชาวสุราษฏร์ธานี เลือกพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 2 ใบ บัตรสีม่วงเลือกผู้แทนเขต และบัตรสีเขียว เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้เราได้ผู้แทนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไปขับเคลื่อนประชาธิปไตยสุจริต ประชาธิปไตยไม่โกง ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องทุกคนต่อไป
“ขอวิงวอนพี่น้องนะครับ ขอให้พี่น้องประชาธิปัตย์ทุกคน ยืนหยัดอยู่กับประชาธิปัตย์ต่อไป ไม่ใช่เพื่อเรา ไม่ใช่เพื่อประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เพื่อผู้สมัคร 7 คนของประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เพื่อผม เพื่อท่านชวน ท่านบัญญัติ แต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป ขอให้หนักแน่นกับชาวประชาธิปัตย์ พรรคของเรา คนของเรา เบอร์ 26 และผู้แทนเขตทั้ง 7 คน” นายจุรินทร์กล่าวในที่สุด
ภายหลังจากนายจุรินทร์ปราศรัยเสร็จได้เปิดเทปบันทึกเสียงของมาดามเดียร์สั้นๆที่ไม่ได้ลงพื้นที่สุราษฎร์เนื่องจากต้องไปเวทีดีเบตช่องวันและขอเสียงให้ผู้สมัครทั้ง7เขตทั้งคนทั้งพรรคเพื่อศักดิ์ศรีของพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นโมเดลสุราษฎร์ธานี
จากนั้นได้ให้ผู้สมัครแต่ละเขตขึ้นเวทีปราศรัยคนละประมาณ5นาที
ตามด้วยนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค ปชป.ขึ้นเวทีปราศช่วงเวลา ประมาณ20.00น.ในช่วงแรกเป็นการพูดถึงการเลือกตั้งปี2562ที่ผ่านมาที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับนายธานี เทือกสุบรรณ หรือกำนันเล็กที่ออกจากพรรค ตามวิถีทางการเมืองแต่ความเป็นพี่เป็นน้องยังเหมือนเดิม และมาปีนี้นายชุมพล กาญจนะ ออกจากพรรค ปชป.แต่ความเป็นพี่น้องเหมือนเดิมเช่นกัน ซึ่งเป็นธรรมดาของการเมืองที่อาจจะมีการย้ายเข้าย้ายออก ตอนนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกันที่โพลล์ของ ปชป.ออกมา จึงตั้งใจมาช่วยเพราะมี ส.ส.เก่าอย่างนิภา พริ้งศุลกะ บอกว่าไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ สมัยก่อนมีการเขียนในแผ่นยางติดไว้หน้าบ้านว่า พรรคอื่นไม่เอา เพราะเอาพรรคนายชวนเสียแล้วแต่สมัยนี้ไม่ต้องทำขนาดนั้น ขอให้เก็บไว้ในใจ และกล่าวว่าสมัยปี 2538ตนเองเป็นผู้ผลักดันให้มี มอ.เขตสุราษฎร์ํธานี ทั้งนี้ตนเองเป็นผู้กระจายรายได้ กระจายอำนาจมีกฎหมายกระจายอำนาจปี2542พูดถึงอดีตแต่มีผลถึงอนาคตรวมถึงผลงานในอดีตที่พรรค ปชป.เป็นรัฐบาล ทั้งนี้ขอย้ำขอเสียงให้ ปชป.ทั้ง7เขต
นายชวนยังกล่าวด้วยว่า ไม่ใช่เฉพาะตำรวจที่มีสีเทา ในสภาก็มีสีเทา แต่ส่วนน้อย แนวประชาธิปัตย์77ปีจุดเด่นรับทุกกลุ่มอาชีพที่เป็นคนดีดังคำกล่าวของท่านพุทธทาส คนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง ปชป.เป็นพรรคของประชาชน ใครไปก็อวยพร ให้ไปดีแต่ตนเองยังยืนหยัดอยู่ ปชป. ขอให้ชาวสุราษฎร์ธานี ยืนหยัดเช่นกัน และสร้างคนรุ่นใหม่ ขึ้นมา
โดยนายชวนกล่าวปราศรัยเกือบ 1 ชั่วโมง ตามด้วยนายสาธิต วงศ์หนองเตย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กล่าวปิดท้าย โดยที่ยังมีประชาชนฟังปราศรัยเบาบางลงบ้าง ส่วนใหญ่เป็นประชาชนในเขต อ.เมือง และอำเภอใกล้ ๆ รวมทั้งผู้สมัครคู่แข่งอีกด้วย และปิดเวทีปราศรัยเวลา 21.40 น.