“เจษฎากร เขียนนิลศิริ” หรือ รองปุย ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 1 เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่หาเสียง ถนนคนเดินเซราะกราว บังเอิญพบผู้สมัครพรรคก้าวไกล เปรย เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งได้รับความสนใจจากพ่อค้า แม้ค้า และประชาชนจับจ่ายซื้อสินค้าเป็นอย่างมาก
เมื่อช่วงค่ำ วันนี้ (29 เม.ย.2566) นายเจษฎากร เขียนนิลศิริ หรือ “รองปุย” อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ นักการเมืองหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยทีมงานหาเสียงได้ลงพื้นที่เดินสายหาเสียง ที่บริเวณถนนคนเดินเซราะกราว วอล์คกิ้งสตรีท ริมคลองละลมโบราณลูกที่ 4 เขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ขอคะแนนเสียงจากบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่จับจ่ายซื้อของ พร้อมทั้งแนะนำตัว และแจกแผ่นพับโบร์ชัวร์นโยบายพรรคพลังประชารัฐ เพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชน ซึ่งได้รับความสนใจจากพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนมาเดินจับจ่ายซื้อของที่บริเวณถนนคนเดินเซราะกราว วอล์คกิ้งสตรีท เป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ระหว่างที่ นายเจษฎากร เขียนนิลศิริ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 1 เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยทีมงานเดินหาเสียงอยู่นั้น บังเอิญได้พบปะกับผู้สมัครของพรรคก้าวไกล กำลังเดินหาเสียง อยู่ที่บริเวณถนนคนเดินเซราะกราว วอล์คกิ้งสตรีท ด้วยเช่นกัน โดยนายเจษฎากร ได้เดินเข้าไปทักทายผู้สมัครของพรรคก้าวไกล พร้อมกับกล่าวสั้นๆ ว่า เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ก่อนจะเดินแยกกันไปหาเสียงต่อ
นายเจษฎากร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงพบปะพี่น้องประชาชนโดยการเคาะประตูบ้านตามหมู่บ้าน ชุมชน ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 มีกระแสตอบรับที่อยากเปลี่ยน ส่วนจะเป็น ส.สงจากพรรคใดก็ล้วนเป็นมติของพี่น้องประชาชน
ส่วนตัวก็อยากฝากว่า วันนี้การเมืองวิถีใหม่ ก้าวข้ามความขัดแย้ง อยากให้พวกเรามองผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ การแข่งขันที่จะรุนแรงหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดได้ ก็คือ ความรู้ของพี่น้องประชาชนในการที่จะตัดสินใจเลือก ส.สงเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯ ซึ่งเป็นกลไกลสำคัญในการขับเคลื่อนในการพัฒนาประเทศ
“อย่างไรก็ดี อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนในวันที่ 14 พ.ค.2566 อยากให้ออกมาใช้สิทธิกันเยอะ เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดี เปลี่ยนเพื่อได้นักการเมืองที่ดี ไม่ไปโกงกินบ้านเมือง ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ที่ผ่านมาเราบอบช้ำกันพอแล้ว วันนี้ผลการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นอย่างไร จะแพ้หรือจะชนะ มันล้วนเป็นเกมกีฬาที่พวกเราต้องยึดมั่นในการปฏิบัติหน้าที่อย่างให้มีคุณค่า” นายเจษฎากร กล่าว