สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน “สิงห์-เอสเอที ปราจีนบุรี แชมเปียนชิพ 2023” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท จากการสนับสนุนร่วมกันของ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท., กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ, น้ำดื่มสิงห์, บริดจสโตน, อินฟินิท, บริษัท อะเบ้าท์ กราส จำกัด และ บริษัท อีจีเอ เมเนจเม้นท์ รายการนี้เป็นรายการที่สองของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 2023 แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 72 หลุม ระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน 2566 ณ สนามกบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ หรือ เคบีเอสซี ระยะ 7,302 หลา พาร์ 72 จ.ปราจีนบุรี
การแข่งขันรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา อมรินทร์ กรัยวิเชียร นักกอล์ฟวัย 26 ปีจากกรุงเทพฯ ที่เปิดฉากด้วยการตามหลังผู้นำ 3 สโตรก แต่ประเดิมเบอร์ดี้ตั้งแต่หลุมแรก ทำให้เกมไหลลื่นทำสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามาอีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 รวมสี่วัน 17 อันเดอร์พาร์ 271 คว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตนับตั้งแต่เข้ามาเล่นในทัวร์ใหญ่ของสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2019 รับเงินรางวัลไปครอง 240,000 บาท
อมรินทร์ ที่ประเดิมการแข่งขันไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในอาชีพที่สนามกบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ หรือ เคบีเอสซี เมื่อเดือนสิงหาคม 2019 ก่อนจะมาคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตที่สนามแห่งเดียวกันนี้เปิดเผยถึงความรู้สึกว่า “วันนี้อยู่กับตัวเองทั้งวัน ไม่ได้คิดถึงสกอร์ ไม่ได้คิดว่าใครจะทำอะไร แล้วสตาร์ตดีด้วยยิ่งทำให้เราอยู่กับตัวเองแล้วไม่กดดัน เพราะเบอร์ดี้มันมาเรื่อยๆ พอมันไม่ลงก็ไม่เป็นอะไร เพราะรู้ว่าเดี๋ยวมันก็มาอีก”
นักกอล์ฟหนุ่มจากกรุงเทพฯ ยังได้บอกว่าประสบการณ์ที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ก่อนหน้านี้ช่วยได้มากสำหรับชัยชนะครั้งนี้ “ก่อนออกรอบสุดท้ายไม่รู้สึกอะไรเลย คิดว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาเราได้บทเรียนมาบ้าง ที่แบบเวลาเราอยากจะเอา หรือพยายามคิดว่าคนนั้นคนนี้จะทำอะไร แต่วันนี้มีความรู้สึกว่าไม่สนใจใครเลย นั่นน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นได้ แล้วพอสตาร์ตดีโมเมนตั้มมันก็มา ผมคิดว่าโมเมนตั้มน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วในกีฬากอล์ฟ”
อมรินทร์ เปิดเผยอีกว่าการที่ได้คุณพ่อ มหินทร์ กรัยวิเชียร มาเป็นแค็ดดี้ให้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เขาชนะในครั้งนี้ “คุณพ่อครับ คุณแม่ด้วยที่เชียร์อยู่ที่บ้าน คุณพ่อมาถือถุงให้ก็มีความรู้สึกว่าทำงานกันเป็นทีมได้ดีมาก ยิ่งนับวันยิ่งรู้สึกว่าเราเข้าขากันขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นยังต้องยกเครดิตให้กับ อารี ซอง ที่เป็นโค้ชสวิง รวมถึงอาจารย์มนต์ชัย โค้ชฟิตเนส เพราะรู้สึกว่าอากาศร้อนมากแต่สภาพร่างกายเรากลับค่อนข้างดี รวมถึงเพื่อนๆด้วยที่คอยสนับสนุนเรามาตลอด ช่วยกันซ้อม ช่วยกันดู แข่งขันด้วยแต่ว่าเราเป็นมิตรกัน”
ส่วน ชนม์เจริญ บารมีธนเศรษฐ์ นักกอล์ฟวัย 22 ปี แม้จะออกสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยการตามหลังผู้นำ 5 สโตรก แต่หนุ่มชัยนาทเร่งเครื่องด้วยการเก็บเพิ่มมากอีก 7 เบอร์ดี้ แต่น่าเสียดายที่ไปพลาดเสียโบกี้แรกและโบกี้เดียวของวันที่หลุม 18 ก่อนจบรอบสุดท้ายเข้ามา 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสี่วัน 16 อันเดอร์พาร์ 272 จบอันดับสองชนิดที่พลาดโอกาสเพลย์ออฟไปเพียงสโตรกเดียว รับเงินรางวัลปลอบใจไป 132,000 บาท
สำหรับ วรุณ เอี่ยมแก้ว นักกอล์ฟวัย 28 ปีจากพิษณุโลกที่สตาร์ตวันสุดท้ายด้วยการนำ 3 สโตรก แต่ปรากฏว่าพัตเตอร์ไม่ทำงานและจบวันทำเข้ามาเพียง อีเวนพาร์ 72 รวมสี่วัน 15 อันเดอร์พาร์ 273 จบอันดับสามร่วมกับ เอกปริษฐิ์ หวู่ ลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน วัย 23 ปีจากระยองที่ทำเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 รับเงินรางวัลคนละ 76,300 บาท
สำหรับรายการต่อไป ของ ไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ เล่นเป็นสนามที่ 3 รายการ "สิงห์-เอสเอที ชะอำ แชมเปียนชิพ 2023" ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ที่สนามเลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ จ.เพชรบุรี ระหว่างวันที่ 10-13 พ.ค.66
สรุปผลการแข่งขันสิงห์-เอสเอที ปราจีนบุรี แชมเปียนชิพ 2023 (สนามพาร์ 72)
271 อมรินทร์ กรัยวิเชียร 69-67-68-67 (เงินรางวัล 240,000 บาท)
272 ชนม์เจริญ บารมีธนเศรษฐ์ 69-67-70-66 (เงินรางวัล 132,000 บาท
273 เอกปริษฐิ์ หวู่ 65-67-72-69, วรุณ เอี่ยมแก้ว 65-68-68-72 (เงินรางวัลคนล่ะ 76,300 บาท)
274 จักรพันธุ์ เปรมสิริกรณ์ 68-70-67-69 (เงินรางวัล 59,300 บาท)
275 เดชาวัต เพชรประยูร 67-70-70-68 (เงินรางวัล 52,300 บาท)
276 ภาณุวิชญ์ อ่อนจู 71-69-67-69 (เงินรางวัล 46,300 บาท)
277 พล เขมรัตน์ 70-70-71-66, นพรัฐ พานิชผล 72-68-71-66, ตะวัน พงศ์พันธุ์ 62-73-73-69, ณัฎฐพัชร์ แก้วพิบูลย์ 71-68-69-69 (เงินรางวัลคนล่ะ 36,300 บาท)
278 ชโยดม จันทร์จารุพงศ์ 73-69-68-68, ธัญพัฒน์ สุขเกิด 67-73-67-71 (เงินรางวัลคนล่ะ 30,800 บาท)